วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ลังกาวตารสูตร  สูตรว่าด้วยการไม่กินเนื้อสัตว์  สูตรที่เป็นหลักฐานว่าพุทธเจ้าเคยไปเกาะลังกาหรือไม่ ? เล่าว่าท่านเคยไปครั้งแรกเมื่อไปเพียงพระองค์เดียว

.มีข้อมูลว่าพุทธเจ้าเคยไปลังกาถึง 3 ครั้ง  ครั้งนั้นเกาะลังกามีชื่อว่า  ตัมพปัณณิทวีป  ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ประชาชนได้เห็นและบุตรกษัตริย์พร้อมด้วยบุรุษจำนวนมากได้ออกบวชเพราะเลื่อมใส   ศรีลังกา มีประวัติที่ยาวนานนับ 3,000 ปี
ลังกาวตารสูร  ก็เป็นพระสูตรหนึ่งในหลายพระสูตรของฝ่ายมหายานกล่าวว่ามีถึง 7 ผูก  คำภีร์มหายานมีสูตรจำนวนมากแต่ไม่ค่อยพบในฝ่ายพุทธเถรวาท   ปริศนาทำไมพระโอวาทของพุทธเจ้าเดียวกัน  แต่กลับไม่ค่อยมีปรากฏในฝ่ายเถรวาท

ลังกาวตารสูตร   เป็นคำสอนให้งดเว้นการกินเนื้อสัตว์เพื่อรักษาศีลในข้อที่ 1  คือส่งเสริมการไม่ฆ่าสัตว์   คำสอนฝ่ายมหายานจะเผยแพร่ในดินแดนฝ่ายเหนือของอินเดียจึงเข้ากันได้กับวัฒนธรรมของจีนคือการรับประทานอาหารเจซึ่งมีมายาวนาน  และเชื่อว่ามีมาก่อนชาวยุโรปจะเดินทางมาถึง    ลังกาวตารสูตร  บรรยายว่าพุทธเจ้าได้ตรัสสูตรนี้ที่เกาะลังกาตามชื่อ  ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปถามชาวศรีลังกาว่า
พุทธเจ้าได้เคยมาจริงหรือไม่

ตามประวัติศาสตร์  ประเทศศรีลังกา  มีประวัติที่ยาวนานก่อนสมัยพุทธกาล  ตั้งแต่ชาวทมิฬและสิงหลจะเข้ามาอยู่บนเกาะนี้ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับยักษ์และนาคบนเกาะแห่งนี้   ตามหลักฐานกล่าวว่าลังกาวตารสูตรได้แปลครั้งแรกเป็นภาษาจีนโดยคุณภัทรแห่งอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 433  (พ.ศ.976)  ก่อนพระถังซัมจั๋งจะนำพระไตรปิฏกฉบับแรกเดินทางไปถึงเมืองจีน  และพระสูตรนี้ยังถูกแปลอีกหลายครั้งโดยชาวอินเดีย  *****ดูหลักฐาน  ยมกปาฏิหาริย์   คือการแสดงฤทธิ์ในพุทธกาลเพื่อให้ผู้คนได้เห็น  มีข้อมูลว่าพุทธเจ้าเคยทำปาฏิหาริย์ที่เกาะลังกาด้วย   0 >>> ที่นี่

เหตุที่มาการแยกนิกายจากเถรวาทมาเป็นมหายานเพราะพุทธเจ้าได้กล่าวกับพระอานนท์ว่า  บทคำสอนต่างๆสามารถปรับเปลี่ยนได้บ้างตามความเหมาะสมจึงมีการตีความหมายที่แตกต่างกันไปจึงเกิดลัทธินิกายต่างๆแยกออกไปมากมาย   พระพุทธเจ้ามีองค์เดียวหรือหลายองค์ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่จะเชื่อจากผู้ที่สัมผัสพระพุทธเจ้าได้จริง   ประวัติศาสตร์ตัวอักษรเริ่มในอียิปต์ประมาณ 5,000 ปี  ทางตะวันออกก็อาจจะเริ่มเมื่อ 3,000 - 4,000 ปี ก็น่าจะใกล้เคียงกันถ้ามีพุทธเจ้าเกิดก่อนหลายองค์คงสอนกันด้วยคำพูดเป็นหลักโดยไม่มีตัวอักษร    ถ้าจะให้บอกความแตกต่าง พระไตรปิฎกคือคำพูดจากพุทธเจ้าที่ได้รวบรวมไว้   แต่พระโพธิสัตว์ของมหายานยังไม่ใช่พุทธเจ้าผู้ที่จะนำพาจิตวิญญาณได้ควรเป็นอรหันค์เท่านั้นก็ดูจะน่าสมเหตุผล        พระโพธิสัตว์เป็นเพียงเทวดาที่ยังไม่บริสุทธิ์ยังไม่เป็นอรหันต์จึงเชื่อว่าไม่สามารถแสดงฤทธิ์ได้เพราะไม่มีอภิญญาจิต     

<<  ดูการแสดงเต้นรำของศรีลังกา  >>>|  ที่นี่










<<  ข้อมูลภาพจากวิดิทัศน์ภาพการแล่นเรือของชาวทะเลในสมัยโบราณ    จะใช้ลมทะเลเป็นหลัก

****ดูเรื่องลังกาวตารสูตร   0 >>> ที่นี่
*****ข้อมูลพระสูตรของพุทธฝ่ายมหายาน
0 >>> ที่นี่
*******ดูร้านอาหารเจในไทย  0 >>>  ที่นี่




<<  หลักฐานภาพจากวิกิพีเดีย   แสดงเขตอาณาจักรโมริยะ  ( พ.ศ.221 - 358 )  ที่ครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของอินเดีย (สีนํ้าเงิน )  แต่เมืองเก่าแก่คือ อนุราธปุระ  (สีฟ้าด้านล่าง ) กลับเป็นจุดที่ตั้งของพุทธศาสนาซึ่งเป็นหลักฐานประกอบการยืนยันว่า  พุทธเจ้าเคยมาศรีลังกา ก่อน พ.ศ. 221  ศาสนาพุทธจึงได้ตั้งมั่นอยู่ในศรีลังกา   และไม่ถูกขยายการปกครองโดยอาณาจักรโมริยะเพราะมีการนับถือพุทธศาสนาในยุคของพระเจ้าอโศก    สีฟ้าอาจหมายถึงเมืองหรือดินแดนที่เป็นสาขาของอาณาจักรโมริยะ

อนุราธปุระ   ข้อมูลแจ้งว่าเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสิงหลเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของโลก   มีต้นศรีมหาโพธิ์ที่สืบหน่อมาจากพุทธคยาของอินเดีย

*****ดูเมืองอนุราธปุระ  >>>|  ที่นี่










วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

" บุญ "   การทำบุญให้เกิดมี 10 วิธี ตามคำสอนในพุทธศาสนา   แต่เชื่อว่าการจะไปอยู่กับโลกของพระเจ้าได้นั้นเชื่อว่ามนุษย์สามารถปฏิบัติได้   และยังมีองค์ประกอบที่มีมากกว่านี้  เช่น.-ความบริสุทธิ์ยุติธรรม  ความซื่อสัตย์   การมีจิตเมตตา  ดังนั้น  มนุษย์จึงแตกต่างกันด้วยบุญกุศล  ศีลธรรม  ความดี  ฯลฯ

การทำให้เกิดบุญตามคำสอนทางพุทธ มีดังนี้.-
1.การให้ทาน  เพื่อลดความตระหนี่  2.การรักษาศีล  ทำให้วิญญาณบริสุทธิ์  3.การภาวนา คือการตั้งจิตให้มั่นคงเพื่อการทำในสิ่งที่ดี
4.การอ่อนน้อมถ่อมตน  คือไม่หยิ่งยะโส  5.การช่วยเหลือผู้อื่น   6.ให้โอกาสผู้อื่นมาทำบุญร่วมกับเรา  เป็นการแบ่งปันในการทำบุญ  7.ยอมรับในความดีของผู้อื่น  คือการมีจิตที่ไม่คิดริษยาผู้อื่น   8.ร่วมฟังธรรม   คือรับฟังคำสอนความรู้ในเรื่องที่ดีงามเพื่อการปฏิบัติตนเอง 
คาดว่ามีการฟังธรรมเกิดขึ้นมากในสมัยพุทธกาลจากพุทธเจ้า
9.การแสดงธรรม   คือการบอกกล่าวความรู้ที่ดีงามที่ถูกต้องให้ผู้อื่น

10.ทำความเห็นให้ถูกต้อง  ****  ความเห็นที่ถูกต้องแห่งสัจจธรรมนี้เชื่อว่ายังเป็นที่สับสนในหลายศาสนา  เพราะแต่ละศาสนาก็เชื่อว่าศาสดาและคำสอนของตนนั้นถูกต้องเสมอไม่มีผิด   ศาสดาเป็นมนุษย์ที่สามารถปฏิบัติให้เข้าถึงพระเจ้า    แต่พระเจ้าเชื่อว่ามีมาก่อนมนุษย์และเป็นผู้ที่มีความเป็นอมตะและเป็นผู้สร้างมนุษย์    การไม่เชื่อในความแตกต่างเป็นการไม่ยอมรับผู้อื่นไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนหรืออาจมีความริษยาผู้อื่น    ในโลกมนุษย์เพียงแค่สัจจธรรมในความดีก็มีความหมายแตกต่างกันหรือมีการชี้นำไปในทางที่ผิด    การชี้นำที่ผิดมีผลต่อมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดในขณะเดียวกันก็ไม่มีคำตอบที่แท้จริงจากพระเจ้า    หรือว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์มาเพื่อให้เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งน่าจะเป็นความจริง    ความขัดแย้งในศาสนาจึงเกิดขึ้นทั่วโลก   โลกของสวรรค์เป็นเรื่องที่ลี้ลับที่มนุษย์จะสามารถเข้าใจได้ เป็นเรื่องของจิตวิญญาณเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ



<<   ชั้นของเทวดาที่มีในพุทธศาสนามีด้วยกัน 6 ชั้น  (ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง)   ตามข้อมูลทางด้านซ้ายมือ   ***สวรรค์ชั้นดุสิต  (***Dusit) มีข้อมูลว่าพุทธเจ้าของพุทธศาสนาได้ลงมาจากสวรรค์ในชั้นนี้เพื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์เมื่อกว่า 2,558 ปี มาแล้ว  และได้เป็นศาสดาของพุทธศาสนา   ส่วนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  (Dawating) ชั้นที่ 2  พุทธเจ้าก็เคยเดินทางมาเพื่อโปรดเยี่ยมมารดาของพระองค์เมื่อสมัยพุทธกาล
ส่วนสวรรค์ชั้นที่ 1 (Chatumaharachiga) บรรยายว่า เป็นชั้นสวรรค์ที่อยู่ไกล้โลกมนุษย์มากที่สุด   ชั้นของสวรรค์เป็นโลกทิพย์ไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นวิญญาณของตนเอง   

<<   บนโลกของสวรรค์   อาจจะมีภาพเหล่านี้เมื่อมนุษย์กับสัตว์ที่แตกต่างเป็นเพื่อนกันได้   แต่ในบางครั้งภาพเหล่านี้ก็สามารถเห็นได้อยู่ทั่วไปบนโลกมนุษย์คือความหิวกระหายและจิตใจที่อำมหิตโหดร้ายได้หมดไปจากใจเพราะไม่มีความหิว   ความหิวกระหายเป็นทุกข์ร้ายอย่างหนึ่งของการมีชีวิต

ในพุทธศาสนาบรรยายว่าบนโลกสวรรค์ผู้ที่ทำแต่ความดีเมื่ออยู่บนโลกจะได้ไปเกิดในชั้นสวรรค์ที่แตกต่างกันเพราะการทำความดีของตน   ดังนั้น  วัตถุสิ่งของต่างๆบนโลกอาจเป็นเพียงภาพมายาที่ทำให้ผู้คนต้องหลงไหลและยึดติดว่าเป็นของตนและในขณะเดียวกันก็ต้องสูญสิ้นไปเมื่อร่างกายของตนต้องจากไปและเหลือเพียงวิญญาณ   และเมื่อนั้นเรากำลังจะไปทางไหน ?  ใครจะเป็นผู้ให้คำตอบ  ...................................?  

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559


 ข้อมูล 10 ประเทศ ที่ยังมีสันติหรือไม่มีการขัดแย้งบันทึกว่ารวบรวมมาเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  มีดังนี้.-
1.บอตสวานา  ดู 0 >>> ที่นี่        2.ชิลี                               3.คอสตาริกา                             4.ญี่ปุ่น                                     
5.มอริเซียส ดู 0 >>> ที่นี่            6.ปานามา  ดู 0 >>>  ที่นี่
7.กาตาร์  ดู  0 >>> ที่นี่              8.สวิตเซอแลนด์
9.อุรุกวัย                                 10.เวียตนาม                               ความสุข  สงบ  สินติ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการแต่พุทธเจ้าว่าในโลกถึงแม้จะมีสุขก็ยังมีทุกข์  แนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวก็อาจเป็นชะตากรรมของมนุษย์ที่พระเจ้าส่งคนให้มาเกิดบนเส้นแนวนี้   ท่านจะมีความสุขหรือเพียงแต่ทำแก้วนํ้าตกแตกก็คิดตกใจกลัวเกิดแผ่นดินไหวจนฝังใจและเด็กถูกสอนให้หมอบคลานเมื่อเกิดแผ่นดินไหว   ขณะที่บางประเทศกลับไม่มีสิ่งเหล่านี้   ใครเป็นผู้ส่งคนให้มาเกิดบนแนวเส้นนี้   ศาสนาพุทธสอนว่าหากมนุษย์ต้องการเกิดก็จะเกิดขึ้นอีก    เชื่อว่ามีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนวิญญาณมนุษย์มาเกิดใหม่ตามผลบุญและกรรมของแต่ละคน

ศาสนาฮินดูสอนว่ามนุษย์เกิดมาจากพรหมคือความบริสุทธิ์   เมื่อมนุษย์พรหมเกิดบนโลก   การกระทำที่แตกต่างอาจทำให้มนุษย์มีการเกิดใหม่แตกต่างกันและเป็นหญิงและเป็นชายหมุนเวียนกันไป   และสร้างกรรมของตนต่อไป  กรรมย่อมส่งผลให้มนุษย์มาเกิดในฐานะที่แตกต่างกัน   พุทธเจ้าเกิดเป็นบุตรของกษัตริย์เพราะสร้างบุญไว้มาก
พระเจ้าที่แท้จริงอาจเป็นพระพรหมที่อยู่บนสวรรค์และมีชีวิตนิรันดร์   พระเจ้าอาจสร้างมนุษย์ให้มาเกิดเพราะความประสงค์ของท่าน   แต่มนุษย์อาจเข้าใจผิดที่คิดว่าศาสดาของตนเองคือพระเจ้า    แท้ที่จริงแล้วพระเจ้าอาจเป็นเพียงวิญญาณที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นผู้สร้างมนุษย์   มนุษย์ส่วนใหญ่เรียนรู้แต่เรื่องของโลกแต่การเข้ามาและการจากไปของวิญญาณอาจยังไม่รู้    ปริศนาทุกอย่างกลับดำมืดอยู่ในความนึกคิดหรือไม่มีใครสนใจที่จะคิด

ศาสนาบางศาสนาสอนเรื่องที่มีเหตุมีผลของการเกิดที่เป็นไปได้ตามหลักของเหตุและผล  สอนเรื่องวิญญาณ   การเกิดใหม่   การลืมชาติการหมุนเวียนของชีวิต   เรื่องลำดับชั้นของสวรรค์ของผู้ทำความดี การตกนรกของผู้ทำชั่ว   มนุษย์ถ้าสามารถล้างบาปของตนได้ทุกคนก็จะขึ้นสู่สวรรค์กันหมด   กฏของกรรมก็ไร้เหตุผล   เพราะถ้ามนุษย์ยังไม่เข้าถึงความบริสุทธิ์ของความดีก็ไม่มีทางเข้าสู่นิพพานได้ก็ต้องเกิดใหม่บนโลกหมุนเวียนอีกต่อไป   เชื่อว่าแม้จะเข้าถึงสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น  ถ้าต้องเกิดใหม่จะถูกทำให้  " ลืมชาติ "  หมดทุกคนเพื่อการเกิดใหม่


>   ลองพิจารณาว่า  ประเทศที่เกิดบนเส้นแนวแผ่นดินไหวนี้เกี่ยวข้องกับกรรมหรือไม่ที่ต้องมาเกิดบนเส้นแนวนี้  เพราะหลักการเกิดเกิดจากกุศลผลบุญที่ได้ทำมาและให้มาเกิดใหม่   แต่สังเกตุยังมีที่ว่างในหลายประเทศที่ไม่มีแนวแผ่นดินไหว

1.ประเทศชิลี  แม้จะเกิดสันติแต่ต้องทุกข์เพราะแผ่นดินไหว
2.ประเทศญี่ปุ่น  แม้จะมีสินติแต่ต้องทุกข์เพราะแผ่นเปลือกโลก
3.ปานามาและคอสตาริกา   ก็อยู่ในส่วนแผ่นดินไหว

  "  ความสุข  สันติ  แต่ถูกธรรมชาติลงโทษก็ไม่อาจเป็นความสุขที่แท้จริง  " 

*****ดูข้อมูลประเทศที่มีสินติมากสุด   0 >>>  ที่นี่
****บทเพลง   .....ชีวิตจะไปทางไหน ?  +>>> ที่นี่



วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คำอธิบายของการเกิดเป็นหญิงเป็นชาย  มีปรากฏในพุทธศาสนา  เมื่อมนุษย์ละออกจากพรหมคือความบริสุทธิ์  การกระทำรวมทั้งการทำบุญที่มากแตกต่างกันจึงทำให้เกิดเป็นหญิงเป็นชาย และเชื่อว่าเพราะอำนาจจากพระเจ้าได้กำหนดให้เป็น

ศาสนาพุทธบรรยายว่า    ผู้ที่ไม่เคยเกิดเป็นหญิงเป็นชายจะไม่มีคือทุกคนก็เคยเกิดมาแล้วทั้ง 2 เพศ หมุนเวียนเปลี่ยนไปในสังสารวัฏ

สังสารวัฏ  คือการหมุนเวียนเปลี่ยนไปในภพทั้ง 3 คือ.-เทวดา  มนุษย์  สัตว์ในนรก   ดังนั้นการเกิดใหม่ของชีวิตมนุษย์จึงยากที่จะจบสิ้นเชื่อว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับการลืมชาติที่แล้วของตนเองและกล่าวว่าเพราะพระเจ้าทำให้ต้องลืมชาติเพื่อการเกิดใหม่   แม้พุทธเจ้าเองก็มีข้อมูลว่าพระองค์ก็ยังถูกทำให้ลืมชาติจนกว่าจะถึงวันตรัสรู้และได้เป็นพุทธเจ้า

สาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นหญิงเป็นชายตามที่มีในศาสนาพุทธ  มีดังนี้.-
1.เพราะมีความผิดในเรื่องจริยธรรมในศีลข้อที่ 3 คือเรื่องเพศ
2.มีความยินดีและพอใจในความเป็นหญิง
3.ทำบุญมาน้อยและทำบุญเพราะถูกชักชวนให้ทำไม่ตั้งใจทำบุญ


ดังนั้น   ชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันคือกำหนดเวลาและการกระทำของมนุษย์ทุกคนตามเวลาที่เหลืออยู่นั่นคือ  ตนเองอาจกำลังกำหนดวิญญาณในการเกิดใหม่ให้แก่ตนเองในทุกขณะของชีวิต   ชีวิตวิญญาณคือการเกิดใหม่อย่างยากที่จะรู้จบ   การมีชีวิตบนโลกอาจเป็นช่วงเวลาที่น่าโลดแล่นเพราะมีแต่เรื่องที่สนุกและเรื่องที่ทุกคนยังไม่รู้หรือเคยรู้มาแล้วแต่ทำให้ถูกลืม    การมีชีวิตในปัจจุบันจึงอาจเป็นความเสี่ยงของวิญญาณอย่างยิ่งบนความไม่รู้ของตนคือกำลังทำบาปและกำลังจะได้ไปเกิดใหม่โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นอะไรต่อไป    มีคำอธิบายว่ามนุษย์บางคนได้เกิดใหม่จากการกลับมาเกิดได้จากสัตว์เดรัจฉานเหตุเพราะได้ทำบาปมามาก
ปัจจุบัน   ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสัตว์เดรัจฉานทุกตัวเป็นมนุษย์ผู้ผิดบาปที่ต้องกลายร่างหรือไม่   แต่สัตว์เดรัจฉานบางตัวอาจเป็นมนุษย์ที่ถูกลงโทษให้กลายเป็นสัตว์และตกลงในภพนรกเพราะมีจิตใจเยี่ยงสัตว์ในขณะที่เป็นมนุษย์จึงถูกพระเจ้าลงโทษ   นอกจากพระอรหันต์ที่มีอภิญญาจิตเท่านั้นที่จะสามารถล่วงรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้     สัตว์เหล่านี้มีชีวิตที่ทุกข์ทรมานจากการหิวโหยต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด    ต้องแก่งแย่งอาหารเพื่อชีวิตของตนเองในขณะที่ก็ถูกไล่ล่าชีวิตของตนเองด้วย

ศาสนาพุทธอธิบายได้อย่างสมเหตุผลและมีหลักฐานบันทึกไว้   การท่องในภพนรกของพระอรหันต์จี้กงของเมืองจีนก็เป็นข้อบอกถึงภพนรกและคำสารภาพของผู้ที่ได้ทำบาปว่าตนเองได้ทำมาเพราะเหตุใดจึงต้องตกลงในนรกที่อธิบายได้มากกว่าศาสนาอื่น

*****ดูวิดิทัศน์  เรื่องท่องขุมนรกจากพระจี้กงแห่งเมืองจีน   
>>>|  ที่นี่
****ดูคำอธิบายเรื่องเกิดเป็นหญิงเป็นชาย   >>>|  ที่นี
***บทเพลงหยาดนํ้าตาบนสวรรค์    +>>>  ที่นี่