วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โหราศาสตร์กับการเกิดมนุษย์  หรือว่าระเจ้าส่งคนมาเกิด ? การทำนายดวงปัจจุบันจริงหรือมั่ว  แต่ทางพุทธเชื่อว่า กรรมหรือการกระทำ ที่จะส่งผลต่อบุคคล

โหราศาสตร์กับการทำนายและสถิติ    เมื่อโลกเจริญขึ้นแต่ความเชื่อทางโหราศาสตร์กลับได้รับการติดตามมากขึ้นจากบุคคลมากมาย   โหราศาสตร์เกี่ยวกับการเคลื่อนของโลกและดวงดาวบนท้องฟ้าและดวงอาทิตย์หรือสุริยเทพตามความเชื่อของคนโบราณ   ถ้าโหราศาสตร์มีส่วนเป็นความจริงก็อาจหมายถึงพระเจ้ากำลังสร้างมนุษย์ในทุกขณะ   มีเด็กเกิดในทุกวันวันละ 253,200 คน  และกำลังเพิ่มทวีจำนวนมากขึ้นนำมาหารด้วย 12 ราศี จะมีคนเกิดในราศีต่างๆมากถึงวันละ 21,100 คน ถ้ามีอัตราการเกิดอย่างสม่ำเสมอ   ใครส่งมนุษย์มาเกิดในโลก  พระเจ้า ดวงดาว หรือ มาจากต่างดาว หรือเพราะเหตุบังเอิญแต่ทางพุทธศาสนาอธิบายว่าได้มาจาก กรรม
หรือการกระทำของบุคคลส่งคนให้มาเกิดในที่แตกต่างกันตามฐานะยากดีมีจน  ซึ่งก็สมเหตุผล

          การทำนายตามราศีเชื่อว่ามีส่วนใกล้เคียงความจริงมากกว่า 50%  และถ้าเทียบเวลาในการเกิดจะยิ่งแม่นยำมากขึ้น  แต่เชื่อว่าเป็นการทำนายแบบเหมารวมเพราะคนจำนวนถึง 21,100 คนในแต่ละวันในแต่ละราศีจะมีโชคชะตาที่คล้ายกันหมดได้อย่างไร   พุทธศาสนาอธิบายได้ถึง กรรม หรือการกระทำของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป  เราอาจกำลังสร้างกรรมของเราขึ้นในทุกขณะของชีวิตถ้าเปรียบชีวิตคือการเดินทางอันยาวไกลผ่านวิญญาณของแต่ละคนเพราะเมื่อทุกคนสิ้นชีวิตแล้ววิญญาณยังอยู่แล้ววิญญาณไปที่ใหนก็ไปในอีก 3 ภพ ของแดนเกิดของมนุษย์ คือ.-โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ โลกนรก  หมุนเวียนต่อไปที่เรียกว่าสังสารวัฏของพุทธศาสนา   ทางพุทธเชื่อว่ากรรมของแต่ละบุคคลไม่สามารถลบล้างได้เหมือนคริสต์และฮินดู   แต่เมื่อถามจากผู้รู้กล่าวว่าบุญหรือความดีสามารถลบล้างบาปที่เคยทำมาแล้วได้  ดังนั้น  เราอาจมีเวลาไม่มากแล้วในการสร้างบุญ

การทำนายแบบเหมารวมตามจักรราศีจึงยังไม่สามารถนำมาเทียบได้กับผลของกรรมตามหลักพุทธศาสนาที่ยิ่งละเอียดมากยิ่งขึ้น  แล้วท่านจะเชื่อการทำนายตามราศีหรือผลของกรรมของแต่ละคน   นอกจากนี้เส้นลายมือบนฝ่ามือของบุคคลยังบอกถึงโชคชะตาที่อาจส่งผลมาตั้งแต่เกิดแล้วใครเป็นผู้ลิขิตชีวิตนี้  ชาวพุทธเชื่อว่าพระพรหมคือผู้ที่ลิขิตโชคชะตาและท่านเชื่อหรือไม่ ?

*****ดูดวงสำหรับชาวต่างประเทศ  0 >>> ที่นี่ *****ดูดวงกับโหราศาสตร์ไทย  0 >>>  ที่นี่
****เพลงต่างประเทศเกี่ยวกับโชคชะตา  + >>>  ที่นี่
****บทเพลงไทยเกี่ยวกับดวงดาว  + >>>  ที่นี่


วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โลกปัจจุบัน  นอกจากพลโลกเพิ่มขึ้นมาก  เทพต่างๆก็เพิ่มมากขึ้น  ในหลายสถานที่ต่างก็มีเทพของตนเอง  เรื่องของเทพบางครั้งทำให้มนุษย์ต้องเป็นศัตรูกัน  และในขณะเดียวกันสวรรค์กลับนิ่งเงียบ  ความเชื่อใหม่ของจีนไต้หวันคือ  พระแม่องค์ธรรม

พระแม่องค์ธรรม  หรือวิถีอนุตตรธรรม  ประวัติกล่าวว่าตั้งในจีนสมัยราชวงค์ชิง เมื่อ ปี ค.ศ. 1877 (พ.ศ. 2420 หรือราว 139 ปีมาแล้ว)  เมื่อจีนเปลี่ยนเป็นระบอบคอมมิวนิสต์จึงย้ายมาตั้งในประเทศไต้หวัน  ปัจจุบันมีข้อมูลว่าเป็นศาสนามีผู้นับถือเป็นอันดับที่ 3 ในไต้หวันรองลงมาจากศาสนาพุทธและศาสนาเต๋า  กล่าวว่ามีผู้นับถือลัทธิอนุตตรธรรม 10 ล้านคน ใน 86 ประเทศทั่วโลก  (จาก-วิกิพีเดีย)  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของความเชื่อนี้ คือ.-
1.หมิงหมิงซั่งตี้   หรือพระแม่องค์ธรรม เป็นผู้สร้างสิ่งทั้งปวงเหมือนพระพรหมของศาสนาฮินดูของอินเดีย
2.หมีเล่อกู่ฝอ   หมายถึง พระศรีอาริยเมตไตรย์ เป็นพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ได้รับโองการจากพระแม่องค์ธรรมให้ปกครองธรรมกาลยุคขาว คือยุคปัจจุบัน
3.หนันไห่กู่ฝอ  หมายถึง พระโพธิสัติว์กวนอิม   
4.ตี้จั้งกู่ฝอ  หมายถึง ผู้โปรดสัตว์ในนรกภูมิ
5.จี้กงหัวฝอ  หมายถึง พระอรหันต์จี้กง
6.เอวี้ยฮุ่ยผูซ่า  หมายถึง  พระจันทรปัญญาโพธิสัตว์
7.กวนเซิ่งตี้จวิน  หมายถึง  เทพเจ้ากวนอู
วิธีอนุตตรธรรมเชื่อว่าสืบสายมาจาก 3 ศาสนา คือ.-ศาสนาพุทธ ศาสนาขงจื๊อ  ศาสนาเต๋า  มีข้อมูลว่ามีพระธรรมาจารย์ของลัทธินี้มาแล้วถึง 64 รุ่น  และปัจจุบันมีการเผยแพร่ในไทยซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธมากถึง 95 %  มีวัดพุทธในไทยมากจำนวน 33,902 วัด

         โลกปัจจุบันยังคงมากมายด้วยความเชื่อหลังจากพุทธกาลลงมา  แต่ความเชื่อเรื่องการกินอาหารเจหรือมังสวิรัติจะมีในลัทธิอนุตตรธรรมซึ่งน่าเชื่อถือและมีการจำหน่ายอาหารเจและประกอบอาหารเจเพื่อแจกจ่ายให้ทุกคนในวันประกอบพิธีที่สำคัญ   เชื่อว่าการกินอาหารเจหมายถึงการเข้าถึงความบริสุทธิ์ซึ่งจะไม่ค่อยมีปรากฏในศาสนาพุทธนิกายเถรวาทของไทย  แต่จะมีปรากฏในพุทธนิกายมหายานของจีน  คำถามว่าคัมภีร์ลังกาวตารสูตรซึ่งกล่าวว่าคัมภีร์นี้พุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้เมื่อเดินทางไปเกาะลังกาในสมัยพุทธกาลแต่ทำไมไม่มีปรากฏในพุทธฝ่ายเถรวาท   การกินแบบมังสวิรัติมีปรากฏในศาสนาพุทธในอินเดียก่อนที่พุทธเจ้าจะปรินิพพาน   การกินแบบไม่มีการฆ่าสัตว์เชื่อว่าเป็นวิถีการเข้าถึงพรหมเมื่อครั้งพุทธเจ้าได้เข้าไปศึกษาในสำนักดาบสก่อนที่พุทธเจ้าจะได้ละทิ้งออกมาเพื่อไปปฏิบัติด้วยตนเองจนได้ตรัสรู้และเชื่อว่าพุทธเจ้าก็เป็นนักมังสวิรัติคือการไม่กินเนื้อสัตว์ใดเลย   มีข้อมูลว่าตระกูลศากยวงค์ของพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลจะไม่มีการกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร
พุทธเจ้าได้ลงมาเกิดในเมืองมนุษย์ในอินเดียตอนเหนือปัจจุบันคือประเทศเนปาลคือลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิตเป็นสวรรค์ชั้นที่ 4  ในสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นของทางพุทธ

เทพเจ้าเกิดขึ้นก่อนศาสดาในศาสนา  ดังมีปรากฏในประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณที่นับถือเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์  ชาวอินคาและอินเดียนแดงในอเมริกาก็เชื่อว่านับถือสุริยเทพที่มีการบูชายัญ   ขาวโรมันและกรีกก็เชื่อในเรื่องเทพซุสและเทพต่างๆ  ชาวจีนนับถือเทพต่างๆตามวงค์ของกษัตริย์และผู้ปฏิบัติดี   ลัทธิพราหมณ์ในอินเดียโบราณนับถือพระอินทร์และพระพรหมเป็นเทพเจ้าสูงสุด   ปัจจุบันประชากรโลกมีมากถึง 7,445 ล้านคน  ความเชื่อก็มีเพิ่มมากขึ้นโลกก็กำลังยุ่งยากเพราะความเชื่อที่แตกต่างและเริ่มมีการขัดแย้งกัน   ในขณะเดียวกันพระเจ้าบนสวรรค์กลับนิ่งเงียบไม่มีการออกความเห็นใดๆในขณะที่ได้รับยกย่องให้เป็นผู้สร้างโลก   หรือว่าความลับในโลกของสวรรค์ยังจะเป็นความลับที่ยาวนานอีกต่อไปโดยไม่ให้ประชาชนไม่ได้รับรู้อะไร   โลกกำลังทุกข์เพราะความเชื่อแล้วเทพเจ้าผู้สร้างโลกกลับนิ่งเฉย   มนุษย์อาจต้องแสวงหาคำตอบให้กับตนเองแบบเดินหลงทางในวังวนของความเชื่อกันอีกต่อไปอีกยาวนานเท่าไรจึงจะพบ  "ความจริงแท้ "  ที่ว่าเป็นหนทางสุดท้ายของทุกชีวิต  ศาสดาของแต่ละศาสนาอาจเป็นเพียงบันใดให้เราก้าวข้ามความเชื่อที่มีอยู่ให้สูงขึ้นไป    คำถามมีอยู่ว่าในยุคปัจจุบันนี้เราได้เดินมาถูกทางกันแล้วหรือยัง ?

****ดูเรื่องอนุตตรธรรม  เสียงไทย  >>>|  ที่นี่
****ดูสถิติข้อมูลโลกปัจจุบันที่เกิดขึ้นในเวบนี้   0 >>>  ที่นี่
******ดูเรื่องอรหันต์จี้กงเที่ยวเมืองนรก  >>>|  ที่นี่
***ฝากทำนองเพลงนี้ถึง "พระเจ้า " อาจหมายถึงว่าอย่าลืมพวกเราที่ยังเป็นเพียง"มนุษย์ " + >>> ที่นี่

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

( เรื่องเล่าที่มาช้าดีกว่าไม่มา )
สวรรค์ -โลกมนุษย์ -ยมโลก  ใน 3 โลกนี้ทางพุทธว่าคือการเดินทางของวิญญาณ  เรียกว่าสังสารวัฏคือการเปลี่ยนผ่านทางวิญญาณ  มนุษย์มีชีวิตบนโลก 100 ปี  แต่โลกวิญญาณมีเวลาที่ยาวนานนับเป็น กัป (Kap) 
(ภาพพระอรหันต์จี้กงกำลังท่องยมโลกผ่านวิญญาณและเขียนมาเป็นหนังสือจากประเทศไต้หวัน  >> )

จิตคือที่มาของมนุษย์   (อ้างอิงจากพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธและข้อมูลที่ว่าจิตเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง  จิตอาจเป็นเพียงอากาศธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นคือ.-พระเจ้า  ) แต่เมื่อจิตเริ่มมีร่างกายโดยการเริ่มกินอาหารเพื่อให้มีชีวิตเพื่ออยู่รอด  จิตจึงเกิดวิญญาณและเริ่มมีร่างกายเป็นมนุษย์ขึ้นและมีการรับรู้ทั้ง 5 อย่างของมนุษย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทำให้เกิดวิญญาณ  ทางพุทธเชื่อว่าเมื่อเริ่มแรกวิญญาณยังบริสุทธิ์  กินแต่พืชไม่รู้จักการกินเนื้อสัตว์ทางพุทธว่าการฆ่าทำให้มนุษย์เกิดบาปและอาจหมายถึงเกิดความไม่บริสุทธิ์ทางวิญญาณ    และเมื่อมนุษย์วิญญาณมีเพิ่มมากขึ้นการกระทำต่างกันทำให้คนเกิดในที่ต่างกันพร้อมด้วยบุญกุศลที่แตกต่างกัน   โลกปัจจุบันมีคนตายในทุกวันในขณะที่คนเกิดก็มีเกิดในทุกวันในปริมาณที่มากขึ้นเหมือนมาหมุนกงล้อของสังสารวัฏที่เปลี่ยนผ่านของทุกชีวิต   สัตว์ต่างๆบนโลกเมื่อถามผู้รู้กล่าวว่าเป็นมนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นสัตว์  (ข้อนี้ยังต้องสืบค้นต่อไปว่าเป็นสัตว์ทุกตัวหรือไม่ที่ถูกลงโทษจากเมืองนรก )


          วันสารทจีน   ของชาวจีนเชื่อว่ามีมานานมากเพื่อเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ   ในเดือนที่ 7 ของจีนประตูของยมโลกจะถูกเปิดเพื่อให้วิญญาณมารับส่วนบุญ ณ เมืองมนุษย์   ข้อมูลว่าบนสวรรค์มี บุญ และ กตัญญู ที่เทพเจ้าให้การยกย่องนับถือคือการทำความดีเช่นการให้ทาน  การช่วยเหลือผู้อื่น  การแบ่งปัน  การรู้คุณ  โลกปัจจุบันประชากรยิ่งมากแต่ไม่มีใครมาวัดกันว่าปริมาณการให้ทานได้มีเพียงพอต่อการยังชีพของมนุษย์หรือไม่   โลกปัจจุบันจึงมากด้วยปัญหาจากการแข่งขันสารพัด  แต่ปัญหาต่างๆกลับขายได้ให้เป็นข่าวทั้งทางทีวี  หนังสือพิมพ์  ทางโลกออนไลน์  พร้อมกับอุปกรณ์เข้าถึง
ข่าวที่มีบริการลด แลก แจก แถม สารพัด และปัจจุบันยังมี         
เกมส์ใหม่แบบเดินก้มหน้าเพิ่มเข้ามาอีก

ประเทศต่างๆอาจต้องร่างกฏหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของคนธรรมดาแบบเดินตัวตรงให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
( ภาพการเซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันสารทจีน  >> )
โลกปัจจุบันอาจจะไม่มีใครเดินตามหาวิญญาณ   เพราะวิญญาณเป็นสิ่งมองเห็นยาก   แต่ทางศาสนาว่าวิญญาณมีจริง   เหมือนคนจีนที่มีการนับถือวิญญาณบรรพบุรุษที่มีมาอย่างยาวนานเชื่อว่ายาวนานกว่า 2,000 ปี   โลกปัจจุบันอาจเป็นเพียงโลกของการวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิดถึงตอนเริ่มต้นชีวิตแรกเกิดของตนว่าเริ่มมาจากที่ใหน   นั่นหมายถึง สังสารวัฏ ที่มีมาอย่างยาวนานมากตามที่พระพุทธเจ้าได้ค้นพบโดยการทำความดีมาหลายภพหลายชาติจนได้มาเกิดเป็นศาสดา   การเกิดเป็นศาสดาเกิดเป็นได้ยากถ้าไม่มีความมุ่งมั่น   การเกิดเป็นมนุษย์มีข้อมูลว่าทุกคนถูกทำให้ลืมชาติก่อนของตนเพื่อให้มาเกิดใหม่อีกครั้งซึ่งทุกคนจะสามารถทราบได้จาก  ผู้ที่รู้ทางศาสตร์นี้โดยตรง  ว่าชาติที่แล้วเราได้เป็นอะไรและที่เรากำลังกระทำอยู่นี้ก็อาจจะส่งผลต่อไปอีกว่า.......................... " เรากำลังจะเป็นอะไรต่อไป ".....


*****ดูวิดิทัศน์วันสารทจีนในไทย  >>>|  ที่นี่
*****ดูพิธีการเลี้ยงผีเซ่นไหว้ในไทย   >>>|  ที่นี่
*********ดูเรื่องพระพรหม  ชาวไทยและอินเดียเชื่อว่าพระพรหมคือผู้สร้างโลกและมนุษย์   0 >>>  ที่นี่




วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หลังจากโลกเปลี่ยนผ่านมา 2,500 ปี  หนังสือสื่อธรรมและสื่อต่างๆได้ช่วยเผยแพร่คำสอนของพุทธเจ้าและศาสนาต่างๆแทนศาสดา   หนังสือยังช่วยให้มีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้นและป้องกันโรคทางสมอง

หนังสือกับความรู้และชีวิตที่ยืนยาวขึ้น   มีบันทึกกล่าวว่าหนังสือช่วยมนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นมีบันทึกแจ้งเรื่องการวิจัยว่าผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปและอ่านหนังสือเป็นประจำจะมีอายุยืนยาวขึ้นกว่าคนที่ไม่อ่านเลยและส่วนมากจะเป็นสตรีและกลุ่มที่มีรายได้สูง  แต่สำหรับคนที่อ่านหนังสือไม่มากก็ยังได้รับประโยชน์จากการอ่านหนังสือมากกว่าคนที่ไม่อ่าน  ผู้ที่อ่านมากยิ่งขึ้นอีกก็ได้รับประโยชน์จากการอ่านและจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ไม่อ่านหนังสือเลย    ข้อมูลยังบรรยายให้อ่านหนังสือให้มากเข้าไว้แม้จะเพียงวันละครึ่งชั่วโมงจะทำให้ตายได้ยากกว่าผู้ที่ไม่อ่านหนังสือเอาเสียเลย.

        ปัจจุบันกล่าวได้ว่าเป็นโลกของการอ่านหนังสือแม้ว่าหนังสือบางเล่มจะหาอ่านได้ในหนังสืออิเลคโทรนิคส์ทางอีบุคส์ทางหนังสือพิมพ์ประจำวันแต่หนังสือคือการช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง   ช่วยในการจินตนาการและระลึกความจำ    (แปลข้อความด้านขวามือจากภาพที่มีเด็กอ่านหนังสือ : น่าทึ่ง  เด็กญี่ปุ่นเมื่อรอขึ้นเครื่องบินทุกคนอ่านหนังสือ >> )                             ปัจจุบันโรคสมองเสื่อมที่ค้นพบโดยจิตแพทย์ชาวเยอรมัน  เมื่อปี พ.ศ.2449 (ค.ศ.1906) และแจ้งว่าการอ่านหนังสือจะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของการป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์นี้ได้    การอ่านทำให้เกิดความสงบเงียบได้ความรู้มากมายในหนังสือและในทางธรรมทั้งหลายที่ศาสดาของศาสนาได้เพียรปฏิบัติและบันทึกคำสอนไว้ในหนังสือเช่นในพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธและของศาสนาอื่นๆ     หนังสือคือการอยู่กับตนเองเป็นการหลีกหนีความวุ่นวายของโลกปัจจุบัน
ที่มีสิ่งต่างๆมากมายมากขึ้น    ความเงียบกับหนังสือก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ทำให้จิตได้โฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวและได้หยุดพักจิตเพราะโลกแห่งอดีตกาลเมื่อเริ่มต้นการเกิดขึ้นของศาสนาก็เป็นโลกแห่งความเงียบสงบเพื่อให้จิตได้หยุดพักเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปตราบใดเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่เพราะนั่นคือการเดินทางของชีวิตที่ยังไม่หมดสิ้น    ชีวิตที่มีวิญญาณอยู่ในร่างกายนี้เพื่อทำหน้าที่ของทุกคนที่ยังเหลืออยู่เพื่อให้ไปถึงสิ่งที่ตนเองมุ่งหวังไว้     ดังนั้น  คำสอนของศาสนาพุทธจึงอาจสรุปได้ว่าชีวิตมนุษย์ที่แท้จริงแล้วก็คือนักเดินทางท่องเที่ยวที่ยาวไกลไปใน 3 โลก   คือ.-  1.โลกสวรรค์ = w1 , 2.โลกมนุษย์ปัจจุบัน = w2  3.โลกของนรก = w3  
(  พระพุทธเจ้าของพุทธศาสนามีบันทึกว่าลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต (สวรรค์ชั้นที่ 4 ) เพื่อลงมาเป็นศาสดาในเมืองมนุษย์ขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (สวรรค์ชั้นที่ 2 ) เพื่อโปรดเยี่ยมมารดาที่ได้เป็นเทพบุตร   พระอรหันต์    จี้กงของจีนได้เคยท่องไปในยมโลกเพื่อตรวจเยี่ยมยมโลกและนำข้อมูลมาเขียนเป็นหนังสือ  )

******ดูงานหนังสือในไทย  >>>|  ที่นี่
******เยี่ยมร้านขายหนังสือ  0 >>>  ที่นี่
*******มองหาหนังสือธรรมเพื่อแจกจ่ายเป็นบุญกุศล  0 >>>  ที่นี่







 


วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วันทั้ง 7 อาจคลอบคลุมชีวิตมนุษย์ไปอีกนาน  ใครสร้างระบบสุริยะ  ทางพุทธกล่าวว่าพระเจ้าได้สร้างไว้ให้มนุษย์  โหราศาสตร์ให้คำอธิบายของวันทั้ง 7 กับชีวิตของผู้คน
คงไม่มีใครรอดพ้นอำนาจของดวงดาวไปได้  ทุกคนต้องมีวันเกิดในวันทั้ง 7 นี้   ดวงดาวแต่ละดวงให้อำนาจต่อผู้คนที่แตกต่างกันไปตามวันเกิดทั้ง 7 วันนี้  ถ้าใครจะรอดพ้นจากดาวนี้ก็ต้องไปเกิดในดาวดวงใหม่ มนุษย์ผ่านชีวิตมาถึง 3 ล้านปีมาแล้ว   ยังไม่มีใครสามารถหลีกหนีจากโลกไปได้แล้วใครกักขังมนุษย์ไว้แต่เชื่อว่าวิญญาณสามารถไปได้ไกลเท่าที่ต้องการแต่ว่าจะไปอยู่ในสวรรค์ในชั้นใหนในทั้งหมด 6 ชั้นหรือไปเกิดในนรกหรือกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง
 อำนาจของดาวทั้ง 7  ถ้าให้คุณแก่บุคคลที่มีหลักฐานแจ้งไว้ดังนี้.-
ดาวอาทิตย์  หรือเกิดวันอาทิตย์์   หมายถึงผู้ที่มีทรัพย์  เป็นผู้ชนะศัตรู มีเพื่อนดี เป็นคนเข้มแข็งซื่อสัตย์ มีศิลปะความรู้ มีศีลธรรม  พอใจความสงบ มีใจเมตตา  ร่างกายเข้มแข็ง มีความรู้ดี มีวาสนาสูง
ดาวจันทร์  หรือเกิดวันจันทร์  หมายถึงเป็นผู้มีทรัพย์  รูปร่างสวยงาม  เป็นที่รักของผู้คน  เก่งทางวรรณคดี  มีความขยัน  เป็นผู้มีอายุยืนยาว  มีบุตรและบริวารมาก  มีทรัพย์มาก
ดาวอังคาร  หรือเกิดวันอังคาร  หมายถึงเป็นคนกล้า  โกรธง่ายแต่หายเร็ว  มีเกียรติและชื่อเสียง  เป็นผู้มีชัยชนะ  มีทรัพย์สมบัติมาก  สนใจการศึกษาและคว้นคว้า  เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง  
ดาวพุธ  หรือเกิดวันพุธ  หมายถึงรูปร่างสวยและมีทรัพย์  มีวิชาความรู้ใฝ่ในการศึกษา  มีร่าเริงแจ่มใส  เป็นที่ชอบของคน  มีโชคดี  มีบุตรมีเพื่อนคนรักมาก  มีความสุขในชีวิต
ดาวพฤหัส  หรือเกิดวันพฤหัส  หมายถึงมีความรู้สูงมีปัญญา  ทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์  เป็นผู้ใหญ่  เป็นครูอาจารย์  มีโชคเสมอ  ไม่พยาบาทให้อภัยได้  ชอบช่วยเหลือ  หายโกรธได้ง่าย  มีอุดมคติและการศาสนา  มีร่างกายแข็งแรง
ดาวศุกร์  หรือเกิดวันศุกร์  หมายถึงมีทรัพย์ฺสมบัติ  มีความรู้ทางธรรม  มีกิริยาสุภาพ  มีวาจาที่อ่อนหวาน  มีใจเมตตา  มีอายุยืน  มีคุณภาพแบบแปลก  
ดาวเสาร์  หรือเกิดวันเสาร์    หมายถึงมีจิตใจกล้าแข็ง  มีอำนาจและวาสนา  สามารถชนะศัตรู  มีอายุยืนนาน  มีบุตรและบริวารที่ดี  ได้รับการช่วยเหลือ  สามารถเป็นใหญ่ได้  มีความชำนาญเรื่องศิลปกรรม  มีใจเมตตา  มีรูปร่างอวบ  ใจรักในสามี  สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ

ดาวดังกล่าวสามารถให้คุณและโทษตามลักษณะถ้าส่งผลต่อบุคคล ในพระไตรปิฎกบรรยายว่าเมื่อจิตมนุษย์เริ่มเกิดขึ้นบนโลกและเมื่อเริ่มมีขึ้นของร่างกาย   ดวงดาวในระบบสุริยะก็อาจเป็นเทพในลักษณะของวัตถุเพราะเทพเจ้าสามารถแปลงกายได้    คำถามปริศนาทำไมร่างกายมนุษย์จึงมีลักษณะที่คล้ายกันตามสรีระ   เมื่อจิตมนุษย์เริ่มเปลี่ยนเพราะสภาพแวดล้อมบนโลกวิญญาณมนุษย์จึงเชื่อว่าเริ่มแตกต่างกันในแต่ละคน  เช่น รัก เกลียด ชอบ ชัง  จึงทำให้เกิดมามีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันเพราะอำนาจของบุญและกรรมในแต่ละคน   การสร้างบุญหรือคุณความดีจึงเป็นสิ่งที่ไม่ไร้เหตุผล    เพราะในโลกวิญญาณยังมีแม้เทพแห่งความตายยังเฝ้ามองมนุษย์ทุกคนและพร้อมที่จะนำพาไปลงโทษได้ทุกครั้งที่ต้องตาย    พระพุทธเจ้าบรรยายว่าเมื่อได้ตรัสรู้ได้เห็นภาพของตนเองและมวลมนุษย์มีการเกิดใหม่ที่ยาวไกลจนนับประมาณไม่ได้      ดังนั้น  เราอาจเคยเป็นมนุษย์ที่มีการเกิดมาแล้วหลายครั้งและจะยังมีการเกิดอีกต่อไป หรือว่าเรากำลังแสดงบทบาทของเราเองโดยมีวิญญาณและร่างกายใหม่เป็นตัวเปลี่ยนผ่าน ?

****บทเพลงต่างประเทศเกี่ยวกับดาวอาทิตย์   +>>> ที่นี่
****บทเพลงต่างประเทศเกี่ยวกับดวงดาวบนท้องฟ้า  +>>> ที่นี่
****บทเพลงไทย   ที่เกี่ยวกับดาวจันทร์และดวงดาว  +>>>  ทีนี่
*****ดูสภาพเมฆฝนเฉพาะแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  ในวันนี้   0 >>> ที่นี่


วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ภพสวรรค์  ภพมนุษย์  ภพนรก เป็นคำสอนมีในศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ  ยมบาล ( W3 ) คือผู้ติดตามการกระทำของมนุษย์ทุกคน (W2 ) ไม่มีใครรอดพ้นจากภพวิญญาณไปได้  เราเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ภพของวิญญาณกันแล้วหรือยัง ?  สิ่งที่ชาวมนุษย์อาจลืมเมื่อครั้งยังมีชีวิตคือการสร้างบุญหรือคุณความดี
พญายมราช    เทพแห่งโลกวิญญาณเป็นท้าวจตุโลกบาลแห่งทิศทักษิณ  (ทิศใต้)   มีลักษณะใบหน้าดุดัน  พระกายสีแดงทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ พระหัตถ์ขวาถือบ่วงยมบาศก์เพื่อผูกมัดวิญญาณทั้งหลาย  พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้ายมทัณฑ์  มีอิทฤทธิ์มากมีหน้าที่พิพากษาและปกครองวิญญาณในภพนรก  มีบริวารคือยมฑูต หรือ นายนิรยบาลเพื่อนำวิญญาณมนุษย์นำไปสำนักพญายมเพื่อลงโทษในนรกภูมิ

        มีผู้เคยพบพญายมในไทยและบันทึกเล่าให้ฟังพร้อมกับวิญญาณเจ้าที่หรือวิญญาณผู้รักษาสถานที่เช่นศาลพระภูมิเจ้าที่ซึ่งอาจมีเทวดาหรือวิญญาณที่มีบุญมารักษาสถานที่ไว้   โลกวิญญาณยังคงเป็นเรื่องที่ลี้ลับที่อยู่ตรงกันข้ามกับวิทยาศาสตร์ของโลกชาวตะวันตกหรือชาวยุโรป
เป็นโลกก่อนมนุษย์มาเกิดและโลกของมนุษย์ภายหลังความตาย   มนุษยโลกจึงอาจเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนผ่านแบบทศนิยมไม่รู้จบ (0.33333333333333 ? )   ที่เรียกว่าสังสารวัฏคือการเปลี่ยนผ่านในโลกวิญญาณตามอำนาจของบุญในแต่ละคนที่ได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต   คนไทยส่วนมากเชื่อในเรื่องเหล่านี้เพราะอยู่ไกล้ชิดพุทธศาสนาและเชื่อในโลกวิญญาณและอำนาจของบุญและกรรม

มีผู้พบเห็นในโลกวิญญาณประกอบด้วย 1.กล่องของบุญ และ 2.กล่องของความกตัญญูคือการรู้คุณและตอบแทนคุณ  จะเก็บสะสมบุญเหล่านี้ไว้ในโลกของสวรรค์   เชื่อว่ามนุษย์เกิดมาก็แตกต่างกันแล้วด้วยบุญและทั้งดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ต่างๆในระบบสุริยะก็อาจเป็นเพียงการปรากฏการณ์ของเทพที่ปรากฏกายในลักษณะที่เป็นวัตถุ   แต่ทางโหราศาสตร์ไทยมีความเชื่อในการบูชาเทพนี้ทุกครั้งที่มีการโอนย้ายตำแหน่ง

         ทำไมชีวิตมนุษย์ถึงไม่อมตะ   ทำไมชีวิตมนุษย์จึงเป็นเพียงอายุขัยที่มีบนโลก   มนุษย์อาจสูญสิ้นความเป็นอมตะคือความไม่ตายของตนเองไปเมื่อ  3 ล้านปีมาแล้ว อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ของการเกิดมนุษย์   จากความไม่ตายมาเป็นต้องตายในที่สุดแล้วเกิดใหม่อีกครั้งตามกฏสังสารวัฏ   มนุษย์ยังถือว่าสุขสบายในขณะที่สัตว์โลกทั้งหลายยังต้องทุกข์ในการดิ้นรนหาอาหารและยังกลายเป็นสัตว์เลี้ยงให้มนุษย์   ปัจจุบันพลโลกมีเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ความเชื่อและศรัทธากลับสร้างปัญหาและเพิ่มความขัดแย้ง   ความเชื่อฮินดูกล่าวว่ายุคปัจจุบันนั้นเป็น   กลียุคคือยุคของความชั่วร้าย   มนุษย์กำลังไม่ละอายต่อตนเองแม้แต่ทำความชั่ว   การมีมนุษย์เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันอาจหมายถึงสวรรค์ที่ยิ่งอยู่ห่างไกลจากมนุษย์มากยิ่งขึ้น   และแล้วโลกของอนาคตก็อาจก้าวย่างเข้าสู่หายนะอีกครั้งหรือมนุษย์จะต้องอยู่ในวัฏจักรแบบนี้อยู่เรื่อยไป

****ดูวิดิทัศน์เสียงไทย    เกี่ยวกับพญายมราช   >>>| ที่นี่
******ดูคำปรากฏเรื่อง  นายนิรยบาล  เจ้าหน้าที่ในยมโลกที่มีในพระไตรปิฎก   ของคำสอนของพุทธศาสนา  0 >>> ที่นี่
***********ดูวิดิทัศน์เสียงไทย   ของผู้เคยพบกับพญายมราชในไทย  (ด้านล่าง )   วิดิทัศน์นี้ได้ออกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ในประเทศไทย    เมื่อวันอังคาร ที่  21 สิงหาคม 2550  ว่าวิญญาณมีอยู่จริง   ยมฑูตได้พาท่องไปในโลกของวิญญาณเพื่อพิสูจน์ ความจริงของศาสนาพุทธของวิญญาณที่มีในทุกคน
******จากการสัมผัส  กองบุญจะไปรวมในชั้นสวรรค์ตามที่มีข้อมูลบันทึกไว้   บุญทำให้มนุษย์ที่ได้รับมีความสุขอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยได้รับการปกป้อง และเชื่อว่าเขาได้รับการต้อนรับเข้าสู่สวรรค์ในขณะที่ยังเป็นมนุษย์  ชีวิตจึงเป็นสิ่งที่มีสาระที่เกิดจากบุญและกรรมที่ทุกคนทำไว้ขณะมีชีวิตบนโลก   เชื่อว่ามีหลายคนที่เคยสัมผัสกับสิ่งนี้มาแล้วเพียงแต่ไม่มีโอกาสที่จะโพสท์เท่านั้น (ดูภาพเรื่องวิญญาณด้านล่าง -เสียงไทย)

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ข่าวล่าปรากฏ   ชาวอินเดียเหนือปลูกป่า 50 ล้านต้น ภายใน 24 ชั่วโมงวันที่ 11 กรกฎาคม 2559  โดยนำต้นพันธุ์ไม้มาจาก 80 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน

เรื่องเล่าจากข่าว    ชาวอินเดียในแคว้นอุตตรประเทศทางแถบเหนือของอินเดียได้ใช้อาสาสมัครจำนวน 80,000 คนร่วมใจกันปลูกต้นไม้จำนวน 49.3 ล้านต้นบนพื้นที่สาธารณะ ตามทางริมข้างถนน  ตามทางรถไฟ  โดยใช้พันธุ์ไม้ที่แตกต่างกันไปจำนวน 80 สายพันธุ์ในการปลูก   อินเดียเคยประสบกับความร้อนจนต้องมีคนเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปีและอาจรวมไปถึงดินแดนปากีสถานด้วย   ภัยจากความร้อนภัยแล้งกำลังเป็นปัญหาของประเทศแถบใกล้เส้นศูนย์สูตร   ขณะที่ประเทศแถบเหนือขึ้นไปอาจกำลังมีความสุขกับความอบอุ่นที่มีเพิ่มมากขึ้น

รัฐอุตตรประเทศนี้ตั้งอยู่ในส่วนบนของประเทศอินเดียติดต่อกับเนปาล  มีเมืองในศาสนาฮินดูเช่นเมืองพาราณสี  อโยธยา  มธุรา  โกสัมพีในสมัยพุทธกาล  กล่าวว่าอินเดียได้ใช้เงินถึง 6,000  ล้านดอลล่าร์ในการปลูกป่าให้ได้ถึง 12  เปอร์เซนต์  ของพื้นที่ในประเทศและจะทำการปลูกให้ได้ถึง 29 เปอร์เซนต์  คือมากกว่าหนึ่งในสี่ของประเทศ   ถ้าต้นไม้เหล่านี้เจริญเติบโตขึ้นมาภายใต้การระวังดูแลรักษาอย่างดีเชื่อว่าภายใน 3 ปีนี้  อินเดียอาจประสบกับความเย็นและชุ่มชื้นของบรรยากาศในแบบเดิมที่ถูกทำลายไป    การปลูกป่าจำนวนมากเชื่อว่าช่วยลดความร้อนของสภาพอากาศและลดมลพิษในอากาศ   ซึ่งกล่าวว่าในจำนวน 6 เมือง ของอินเดียต้องติดอยู่ในเมืองใน 10 อันดับที่มีมลพิษในอากาศมากที่สุด

<<  ภาพช้างกำลังข้ามถนนในอินเดีย

***ใช้ภาพประกอบบางส่วน   ต่อไปการสร้างอาคารในเมืองใหญ่อาจต้องคิดถึงสภาพป่าไม้ในเขตเมืองร่วมด้วยเพื่อความร่มรื่นและลดการใช้ไฟฟ้าปริมาณมากที่กำลังเป็นปัญหา



****ดูโครงการปลูกป่่าในเขตเมืองในไทย   >>>|  ที่นี่
****ดูเรื่องราวกับการปลูกป่าในที่ต่างๆ  >>>|  ที่นี่
***บทเพลงต่างประเทศกับความเขียวของป่าไม้และต้นหญ้า   +>>>  ที่นี่
***บทเพลงไทย  ที่เกี่ยวกับป่าไม้   +>>> ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

 <<   พิธีให้แร้งกินศพ  ผู้อยู่ห่างไกลความเจริญเชื่อว่าเป็นการอุทิศร่างให้สัตว์เป็นอาหาร   นกแร้งนกจัดการซากศพแห่งภูเขาสูงกำลังจัดการกับซากศพ  พุทธศาสนามีความเชื่อว่าการให้ทำให้ผู้อื่นเป็นสุข   การมีชีวิตบนโลกทั้งมนุษย์และสัตว์ผู้มีความหิว  ความหิวคือทุกข์ร้ายของสรรพสัตว์ผู้มีชีวิตบนโลก
พุทธศาสนาเชื่อว่าเมื่อคนตายวิญญาณได้ออกจากร่างไปแล้วเพื่อไปรับสุขหรือทุกข์   ซากศพจึงเป็นเพียงวัตถุที่รอวันเน่าเปื่อย วิญญาณแห่งความรู้สึกของเราในขณะนี้ได้รวมทุกสิ่งไว้ที่เรียกว่า " กรรม " หรือการกระทำ   จึงเชื่อว่าวิญญาณเป็นพลังงานชีวิตอย่างหนึ่งเหมือนกับพลังงานคลื่นที่เราไม่สามารถมองเห็นได้  แต่วิญญาณรวมเอาความรู้สึกนึกคิดเฉพาะตนของเราไว้ด้วยหรืออาจเป็นได้ว่าอนุภาคของวิญญาณเล็กละเอียดมากจนสามารถเดินทางทะลุกำแพงที่แข็งและหนาไปได้
*****ดูพิธีศพในพื้นที่ห่างไกล  >>>|  ที่นี่
****ดูวิญญาณเข้าสิงร่างคน   >>>|  ที่นี่
<<   แผนที่ดอยผ้าห่มปกบนดอยลางในจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของไทย   ติดเขตพม่า  (Doilang)   ข้อมูลว่ามีนกแร้งจากภูเขาหิมาลัยบินมาถึงที่นี่

****ดูดอยลาง  >>>|  ที่นี่







<<  ภาพทิวทัศน์ก่อนขึ้นสู่ดอยลาง

****ดูเพิ่มเติมดอยลาง  เชียงใหม่  >>>|  ที่นี่


<<  นกแร้ง  นักกินซากจากเขาสูง ข้อมูลว่าบนดอยลางในเชียงใหม่มีทั้งแร้งดำและแร้งสีนํ้าตาล

****ดูการปล่อยนกแร้งคืนสู่ธรรมชาติ   >>>| ที่นี่

***เพลงต่างประเทศที่เกี่ยวกับนกแร้ง +>>> ที่นี่

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ลังกาวตารสูตร  สูตรว่าด้วยการไม่กินเนื้อสัตว์  สูตรที่เป็นหลักฐานว่าพุทธเจ้าเคยไปเกาะลังกาหรือไม่ ? เล่าว่าท่านเคยไปครั้งแรกเมื่อไปเพียงพระองค์เดียว

.มีข้อมูลว่าพุทธเจ้าเคยไปลังกาถึง 3 ครั้ง  ครั้งนั้นเกาะลังกามีชื่อว่า  ตัมพปัณณิทวีป  ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ประชาชนได้เห็นและบุตรกษัตริย์พร้อมด้วยบุรุษจำนวนมากได้ออกบวชเพราะเลื่อมใส   ศรีลังกา มีประวัติที่ยาวนานนับ 3,000 ปี
ลังกาวตารสูร  ก็เป็นพระสูตรหนึ่งในหลายพระสูตรของฝ่ายมหายานกล่าวว่ามีถึง 7 ผูก  คำภีร์มหายานมีสูตรจำนวนมากแต่ไม่ค่อยพบในฝ่ายพุทธเถรวาท   ปริศนาทำไมพระโอวาทของพุทธเจ้าเดียวกัน  แต่กลับไม่ค่อยมีปรากฏในฝ่ายเถรวาท

ลังกาวตารสูตร   เป็นคำสอนให้งดเว้นการกินเนื้อสัตว์เพื่อรักษาศีลในข้อที่ 1  คือส่งเสริมการไม่ฆ่าสัตว์   คำสอนฝ่ายมหายานจะเผยแพร่ในดินแดนฝ่ายเหนือของอินเดียจึงเข้ากันได้กับวัฒนธรรมของจีนคือการรับประทานอาหารเจซึ่งมีมายาวนาน  และเชื่อว่ามีมาก่อนชาวยุโรปจะเดินทางมาถึง    ลังกาวตารสูตร  บรรยายว่าพุทธเจ้าได้ตรัสสูตรนี้ที่เกาะลังกาตามชื่อ  ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปถามชาวศรีลังกาว่า
พุทธเจ้าได้เคยมาจริงหรือไม่

ตามประวัติศาสตร์  ประเทศศรีลังกา  มีประวัติที่ยาวนานก่อนสมัยพุทธกาล  ตั้งแต่ชาวทมิฬและสิงหลจะเข้ามาอยู่บนเกาะนี้ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับยักษ์และนาคบนเกาะแห่งนี้   ตามหลักฐานกล่าวว่าลังกาวตารสูตรได้แปลครั้งแรกเป็นภาษาจีนโดยคุณภัทรแห่งอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 433  (พ.ศ.976)  ก่อนพระถังซัมจั๋งจะนำพระไตรปิฏกฉบับแรกเดินทางไปถึงเมืองจีน  และพระสูตรนี้ยังถูกแปลอีกหลายครั้งโดยชาวอินเดีย  *****ดูหลักฐาน  ยมกปาฏิหาริย์   คือการแสดงฤทธิ์ในพุทธกาลเพื่อให้ผู้คนได้เห็น  มีข้อมูลว่าพุทธเจ้าเคยทำปาฏิหาริย์ที่เกาะลังกาด้วย   0 >>> ที่นี่

เหตุที่มาการแยกนิกายจากเถรวาทมาเป็นมหายานเพราะพุทธเจ้าได้กล่าวกับพระอานนท์ว่า  บทคำสอนต่างๆสามารถปรับเปลี่ยนได้บ้างตามความเหมาะสมจึงมีการตีความหมายที่แตกต่างกันไปจึงเกิดลัทธินิกายต่างๆแยกออกไปมากมาย   พระพุทธเจ้ามีองค์เดียวหรือหลายองค์ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่จะเชื่อจากผู้ที่สัมผัสพระพุทธเจ้าได้จริง   ประวัติศาสตร์ตัวอักษรเริ่มในอียิปต์ประมาณ 5,000 ปี  ทางตะวันออกก็อาจจะเริ่มเมื่อ 3,000 - 4,000 ปี ก็น่าจะใกล้เคียงกันถ้ามีพุทธเจ้าเกิดก่อนหลายองค์คงสอนกันด้วยคำพูดเป็นหลักโดยไม่มีตัวอักษร    ถ้าจะให้บอกความแตกต่าง พระไตรปิฎกคือคำพูดจากพุทธเจ้าที่ได้รวบรวมไว้   แต่พระโพธิสัตว์ของมหายานยังไม่ใช่พุทธเจ้าผู้ที่จะนำพาจิตวิญญาณได้ควรเป็นอรหันค์เท่านั้นก็ดูจะน่าสมเหตุผล        พระโพธิสัตว์เป็นเพียงเทวดาที่ยังไม่บริสุทธิ์ยังไม่เป็นอรหันต์จึงเชื่อว่าไม่สามารถแสดงฤทธิ์ได้เพราะไม่มีอภิญญาจิต     

<<  ดูการแสดงเต้นรำของศรีลังกา  >>>|  ที่นี่










<<  ข้อมูลภาพจากวิดิทัศน์ภาพการแล่นเรือของชาวทะเลในสมัยโบราณ    จะใช้ลมทะเลเป็นหลัก

****ดูเรื่องลังกาวตารสูตร   0 >>> ที่นี่
*****ข้อมูลพระสูตรของพุทธฝ่ายมหายาน
0 >>> ที่นี่
*******ดูร้านอาหารเจในไทย  0 >>>  ที่นี่




<<  หลักฐานภาพจากวิกิพีเดีย   แสดงเขตอาณาจักรโมริยะ  ( พ.ศ.221 - 358 )  ที่ครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของอินเดีย (สีนํ้าเงิน )  แต่เมืองเก่าแก่คือ อนุราธปุระ  (สีฟ้าด้านล่าง ) กลับเป็นจุดที่ตั้งของพุทธศาสนาซึ่งเป็นหลักฐานประกอบการยืนยันว่า  พุทธเจ้าเคยมาศรีลังกา ก่อน พ.ศ. 221  ศาสนาพุทธจึงได้ตั้งมั่นอยู่ในศรีลังกา   และไม่ถูกขยายการปกครองโดยอาณาจักรโมริยะเพราะมีการนับถือพุทธศาสนาในยุคของพระเจ้าอโศก    สีฟ้าอาจหมายถึงเมืองหรือดินแดนที่เป็นสาขาของอาณาจักรโมริยะ

อนุราธปุระ   ข้อมูลแจ้งว่าเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรสิงหลเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของโลก   มีต้นศรีมหาโพธิ์ที่สืบหน่อมาจากพุทธคยาของอินเดีย

*****ดูเมืองอนุราธปุระ  >>>|  ที่นี่










วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

" บุญ "   การทำบุญให้เกิดมี 10 วิธี ตามคำสอนในพุทธศาสนา   แต่เชื่อว่าการจะไปอยู่กับโลกของพระเจ้าได้นั้นเชื่อว่ามนุษย์สามารถปฏิบัติได้   และยังมีองค์ประกอบที่มีมากกว่านี้  เช่น.-ความบริสุทธิ์ยุติธรรม  ความซื่อสัตย์   การมีจิตเมตตา  ดังนั้น  มนุษย์จึงแตกต่างกันด้วยบุญกุศล  ศีลธรรม  ความดี  ฯลฯ

การทำให้เกิดบุญตามคำสอนทางพุทธ มีดังนี้.-
1.การให้ทาน  เพื่อลดความตระหนี่  2.การรักษาศีล  ทำให้วิญญาณบริสุทธิ์  3.การภาวนา คือการตั้งจิตให้มั่นคงเพื่อการทำในสิ่งที่ดี
4.การอ่อนน้อมถ่อมตน  คือไม่หยิ่งยะโส  5.การช่วยเหลือผู้อื่น   6.ให้โอกาสผู้อื่นมาทำบุญร่วมกับเรา  เป็นการแบ่งปันในการทำบุญ  7.ยอมรับในความดีของผู้อื่น  คือการมีจิตที่ไม่คิดริษยาผู้อื่น   8.ร่วมฟังธรรม   คือรับฟังคำสอนความรู้ในเรื่องที่ดีงามเพื่อการปฏิบัติตนเอง 
คาดว่ามีการฟังธรรมเกิดขึ้นมากในสมัยพุทธกาลจากพุทธเจ้า
9.การแสดงธรรม   คือการบอกกล่าวความรู้ที่ดีงามที่ถูกต้องให้ผู้อื่น

10.ทำความเห็นให้ถูกต้อง  ****  ความเห็นที่ถูกต้องแห่งสัจจธรรมนี้เชื่อว่ายังเป็นที่สับสนในหลายศาสนา  เพราะแต่ละศาสนาก็เชื่อว่าศาสดาและคำสอนของตนนั้นถูกต้องเสมอไม่มีผิด   ศาสดาเป็นมนุษย์ที่สามารถปฏิบัติให้เข้าถึงพระเจ้า    แต่พระเจ้าเชื่อว่ามีมาก่อนมนุษย์และเป็นผู้ที่มีความเป็นอมตะและเป็นผู้สร้างมนุษย์    การไม่เชื่อในความแตกต่างเป็นการไม่ยอมรับผู้อื่นไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนหรืออาจมีความริษยาผู้อื่น    ในโลกมนุษย์เพียงแค่สัจจธรรมในความดีก็มีความหมายแตกต่างกันหรือมีการชี้นำไปในทางที่ผิด    การชี้นำที่ผิดมีผลต่อมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดในขณะเดียวกันก็ไม่มีคำตอบที่แท้จริงจากพระเจ้า    หรือว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์มาเพื่อให้เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งน่าจะเป็นความจริง    ความขัดแย้งในศาสนาจึงเกิดขึ้นทั่วโลก   โลกของสวรรค์เป็นเรื่องที่ลี้ลับที่มนุษย์จะสามารถเข้าใจได้ เป็นเรื่องของจิตวิญญาณเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ



<<   ชั้นของเทวดาที่มีในพุทธศาสนามีด้วยกัน 6 ชั้น  (ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง)   ตามข้อมูลทางด้านซ้ายมือ   ***สวรรค์ชั้นดุสิต  (***Dusit) มีข้อมูลว่าพุทธเจ้าของพุทธศาสนาได้ลงมาจากสวรรค์ในชั้นนี้เพื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์เมื่อกว่า 2,558 ปี มาแล้ว  และได้เป็นศาสดาของพุทธศาสนา   ส่วนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  (Dawating) ชั้นที่ 2  พุทธเจ้าก็เคยเดินทางมาเพื่อโปรดเยี่ยมมารดาของพระองค์เมื่อสมัยพุทธกาล
ส่วนสวรรค์ชั้นที่ 1 (Chatumaharachiga) บรรยายว่า เป็นชั้นสวรรค์ที่อยู่ไกล้โลกมนุษย์มากที่สุด   ชั้นของสวรรค์เป็นโลกทิพย์ไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นวิญญาณของตนเอง   

<<   บนโลกของสวรรค์   อาจจะมีภาพเหล่านี้เมื่อมนุษย์กับสัตว์ที่แตกต่างเป็นเพื่อนกันได้   แต่ในบางครั้งภาพเหล่านี้ก็สามารถเห็นได้อยู่ทั่วไปบนโลกมนุษย์คือความหิวกระหายและจิตใจที่อำมหิตโหดร้ายได้หมดไปจากใจเพราะไม่มีความหิว   ความหิวกระหายเป็นทุกข์ร้ายอย่างหนึ่งของการมีชีวิต

ในพุทธศาสนาบรรยายว่าบนโลกสวรรค์ผู้ที่ทำแต่ความดีเมื่ออยู่บนโลกจะได้ไปเกิดในชั้นสวรรค์ที่แตกต่างกันเพราะการทำความดีของตน   ดังนั้น  วัตถุสิ่งของต่างๆบนโลกอาจเป็นเพียงภาพมายาที่ทำให้ผู้คนต้องหลงไหลและยึดติดว่าเป็นของตนและในขณะเดียวกันก็ต้องสูญสิ้นไปเมื่อร่างกายของตนต้องจากไปและเหลือเพียงวิญญาณ   และเมื่อนั้นเรากำลังจะไปทางไหน ?  ใครจะเป็นผู้ให้คำตอบ  ...................................?  

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559


 ข้อมูล 10 ประเทศ ที่ยังมีสันติหรือไม่มีการขัดแย้งบันทึกว่ารวบรวมมาเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมา  มีดังนี้.-
1.บอตสวานา  ดู 0 >>> ที่นี่        2.ชิลี                               3.คอสตาริกา                             4.ญี่ปุ่น                                     
5.มอริเซียส ดู 0 >>> ที่นี่            6.ปานามา  ดู 0 >>>  ที่นี่
7.กาตาร์  ดู  0 >>> ที่นี่              8.สวิตเซอแลนด์
9.อุรุกวัย                                 10.เวียตนาม                               ความสุข  สงบ  สินติ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการแต่พุทธเจ้าว่าในโลกถึงแม้จะมีสุขก็ยังมีทุกข์  แนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวก็อาจเป็นชะตากรรมของมนุษย์ที่พระเจ้าส่งคนให้มาเกิดบนเส้นแนวนี้   ท่านจะมีความสุขหรือเพียงแต่ทำแก้วนํ้าตกแตกก็คิดตกใจกลัวเกิดแผ่นดินไหวจนฝังใจและเด็กถูกสอนให้หมอบคลานเมื่อเกิดแผ่นดินไหว   ขณะที่บางประเทศกลับไม่มีสิ่งเหล่านี้   ใครเป็นผู้ส่งคนให้มาเกิดบนแนวเส้นนี้   ศาสนาพุทธสอนว่าหากมนุษย์ต้องการเกิดก็จะเกิดขึ้นอีก    เชื่อว่ามีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนวิญญาณมนุษย์มาเกิดใหม่ตามผลบุญและกรรมของแต่ละคน

ศาสนาฮินดูสอนว่ามนุษย์เกิดมาจากพรหมคือความบริสุทธิ์   เมื่อมนุษย์พรหมเกิดบนโลก   การกระทำที่แตกต่างอาจทำให้มนุษย์มีการเกิดใหม่แตกต่างกันและเป็นหญิงและเป็นชายหมุนเวียนกันไป   และสร้างกรรมของตนต่อไป  กรรมย่อมส่งผลให้มนุษย์มาเกิดในฐานะที่แตกต่างกัน   พุทธเจ้าเกิดเป็นบุตรของกษัตริย์เพราะสร้างบุญไว้มาก
พระเจ้าที่แท้จริงอาจเป็นพระพรหมที่อยู่บนสวรรค์และมีชีวิตนิรันดร์   พระเจ้าอาจสร้างมนุษย์ให้มาเกิดเพราะความประสงค์ของท่าน   แต่มนุษย์อาจเข้าใจผิดที่คิดว่าศาสดาของตนเองคือพระเจ้า    แท้ที่จริงแล้วพระเจ้าอาจเป็นเพียงวิญญาณที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นผู้สร้างมนุษย์   มนุษย์ส่วนใหญ่เรียนรู้แต่เรื่องของโลกแต่การเข้ามาและการจากไปของวิญญาณอาจยังไม่รู้    ปริศนาทุกอย่างกลับดำมืดอยู่ในความนึกคิดหรือไม่มีใครสนใจที่จะคิด

ศาสนาบางศาสนาสอนเรื่องที่มีเหตุมีผลของการเกิดที่เป็นไปได้ตามหลักของเหตุและผล  สอนเรื่องวิญญาณ   การเกิดใหม่   การลืมชาติการหมุนเวียนของชีวิต   เรื่องลำดับชั้นของสวรรค์ของผู้ทำความดี การตกนรกของผู้ทำชั่ว   มนุษย์ถ้าสามารถล้างบาปของตนได้ทุกคนก็จะขึ้นสู่สวรรค์กันหมด   กฏของกรรมก็ไร้เหตุผล   เพราะถ้ามนุษย์ยังไม่เข้าถึงความบริสุทธิ์ของความดีก็ไม่มีทางเข้าสู่นิพพานได้ก็ต้องเกิดใหม่บนโลกหมุนเวียนอีกต่อไป   เชื่อว่าแม้จะเข้าถึงสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น  ถ้าต้องเกิดใหม่จะถูกทำให้  " ลืมชาติ "  หมดทุกคนเพื่อการเกิดใหม่


>   ลองพิจารณาว่า  ประเทศที่เกิดบนเส้นแนวแผ่นดินไหวนี้เกี่ยวข้องกับกรรมหรือไม่ที่ต้องมาเกิดบนเส้นแนวนี้  เพราะหลักการเกิดเกิดจากกุศลผลบุญที่ได้ทำมาและให้มาเกิดใหม่   แต่สังเกตุยังมีที่ว่างในหลายประเทศที่ไม่มีแนวแผ่นดินไหว

1.ประเทศชิลี  แม้จะเกิดสันติแต่ต้องทุกข์เพราะแผ่นดินไหว
2.ประเทศญี่ปุ่น  แม้จะมีสินติแต่ต้องทุกข์เพราะแผ่นเปลือกโลก
3.ปานามาและคอสตาริกา   ก็อยู่ในส่วนแผ่นดินไหว

  "  ความสุข  สันติ  แต่ถูกธรรมชาติลงโทษก็ไม่อาจเป็นความสุขที่แท้จริง  " 

*****ดูข้อมูลประเทศที่มีสินติมากสุด   0 >>>  ที่นี่
****บทเพลง   .....ชีวิตจะไปทางไหน ?  +>>> ที่นี่