ความลับในสวรรค์อีก 2 ชั้น  ในพุทธศาสนา 
ภาพดวงดาวฤกษ์ตามจักรราศีที่มีอิทธิพลต่อการเกิดของมนุษย์   เชื่อว่าพระเจ้าได้แบ่งมนุษย์จากการเกิดมาเรียบร้อยแล้วจำนวน  12 กลุ่ม  หรือว่าเทพแห่งดวงดาวเป็นผู้บันดาลชีวิตใหม่ให้ชาวโลก >

สวรรค์ชั้นที่ 6  ปรนิมมิตวสวัตตี  เป็นชั้นสูงสุดมีท้าววสวัตตีเป็นจอมเทพแต่ยังตํ่ากว่าสวรรค์ชั้นพรหมภูมิ
เทวดาที่อยู่สวรรค์ชั้นนี้ต้องการในสิ่งใดก็ไม่ต้องเนรมิตขึ้นเอง  แต่จะมีเทวดาองค์อื่นเป็นผู้เนรมิตให้อายุสวรรค์ชั้นนี้มีอายุถึง  16,000 ปีทิพย์
สวรรค์ชั้นที่ 5  นิมมานรดี   มีท้าวสุนิมมิตเป็นจอมเทพ บรรยายว่ามีวิมานทอง  กำแพงแก้ว  กำแพงทอง ล้อมรอบ  มีแผ่นดินเป็นทอง
เทวดาในชั้นนี้สามารถเนรมิตได้ตามที่ปราถนาอายุเทวดาชั้นนี้มีอายุ  8,000 ปีทิพย์

คาดว่าสวรรค์ทั้งสองชั้นนี้ต้องเป็นผู้ที่สร้างบุญมากกว่าพระพุทธเจ้า  เพราะอยู่เหนือกว่าโดยไม่ต้องเป็นพระโพธิสัตว์  แต่เชื่อว่ามีอายุที่ยาวนานที่เป็นทิพย์

ชาวพุทธเชื่อว่าผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกคือผู้ที่สามารถสร้างบุญกุศลได้มากพอบนกาลเวลาของตนเองที่เหลืออยู่   บุญและความบริสุทธิ์สามารถสร้างวิญญาณของมนุษย์ให้สูงขึ้นไปซึ่งอาจเป็นรางวัลตอบแทนให้จากพระเจ้า   ในยุคที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นพระเวสสันดรได้ให้ทานแก่คนยากจนเป็นจำนวนมากจึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ 4  คือสวรรค์ชั้นดุสิต   โดยบรรยายว่าสวรรค์ชั้นนี้เป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ที่จะต้องลงมาเกิดอีกครั้งเพื่อเป็นศาสดาของศาสนา

พระเจ้าอาจลิขิตชีวิตมนุษย์มาแล้วจากการเกิดด้วยบุญกุศลของตนเอง   ในโลกจึงประกอบด้วย  ผู้ที่ตกทุกข์  ยากจน  อดอยาก  มั่งมี  สุขสบาย  เจ็บป่วย ฯลฯ  แต่โลกก็มีทุกอย่างให้ทุกคนบนเวลาที่จำกัด

<   ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงเทพแห่งดวงดาวเคยเดินทางมาแสดงความยินดีกับพุทธเจ้าที่ให้แสงสว่างในคำสอนแก่ชาวโลกเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ 

เทพแห่งดวงดาวเหล่านี้อาจเป็นเทพที่ให้กำเนิดชีวิตมนุษย์ขึ้นมาตามอำนาจดวงดาวตามจักรราศีทั้ง12 ราศี   ดังนั้น  การเกิดของทุกคนอาจถูกกำหนดจากพระเจ้ามาแล้วตั้งแต่เกิดที่เรียกว่าพรหมลิขิตส่วนการกระทำที่เหลือนั้นมนุษย์จะเป็นผู้ลิขิตชีวิตของตนเอง

 
  " ธรรมชาติเกิดขึ้นก่อนมนุษย์จนถึงปัจจุบันธรรมชาติต้องกลายเป็นสินค้าที่กำลังถูกเลียนแบบโดยไม่มีใครอ้างถึงและเรียกร้องถึงลิขสิทธิ์ของธรรมชาติที่กำลังถูกเลียนแบบ    แต่ธรรมชาติคือสภาวะของชีวิตจริงที่อยู่รอบตัวเรา  ที่กำลังส่งผลต่อทุกคนให้ได้รับรู้ 
....โปรดสังเกตุสภาพที่ทำให้เกิดนํ้าตกขึ้นได้จะมีสีเขียวไปด้วยป่าไม้ที่สมบูรณ์ ...หมายถึง  "ความเย็น." ***** > ภาพนํ้าตกทีลอซู   ตุั้งอยู่ในจังหวัดตากของไทย  ดูภาพเคลื่อนฯ  >>>|  ที่นี่

<   ภาพนํ้าตกเทียมที่สร้างตามแบบธรรมชาติ
<  ******ดูภาพเคลื่อนฯนํ้าตกเทียม  >>>|  ที่นี่

เงินกหาปณะ  ( ^  ภาพด้านบน  ) คือเงินกหาปณะ หรือเงินกษาปณะ  เป็นเงินตราทำด้วยโลหะมีใช้ในสมัยพุทธกาล มีข้อมูลว่าเป็นเงินชนิดแรกที่ใช้ในอินเดียโบราณ  กหาปณะเท่ากับ 20 มาสกหรือ 4 บาทของไทย
  ภาพด้านบนคือแคว้นมคธ หรือ มะคะธะ จากวิกิพีเดีย ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศพม่าในปัจจุบัน    แคว้นมคธเป็นแคว้นที่พระพุทธเจ้าได้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเป็นแห่งแรกเพราะเป็นแคว้นใหญ่  และใช้สวนเวฬุวันคือสวนไม้ไผ่ตั้งอยู่นอกเมืองราชคฤห์เป็นวัดแห่งแรกของพระพุทธศาสนา   

******ดูภาพเคลื่อนฯเพื่อศึกษาเรื่องแคว้นมคธ  อินเดีย   >>>|  ที่นี่

<  ภาพแผนที่อินเดียในยุคพุทธํกาล เมื่อกว่า  2,600 ปีมาแล้ว    เนปาลคือดินแดนเกิดของพุทธเจ้าอยู่เหนือแคว้น มคธ ( Magadha )   แคว้นโบราณอาจมีถึง  16 -22 แคว้น   ความเชื่อยุคนั้นคาดว่ามีเพียงศาสนาฮินดูและเรื่องเทพเจ้ายังไม่มีศาสดาที่ประกาศศาสนาขึ้นได้     ความเชื่อของฮินดูคือทำพิธีกรรมเพื่อบูชาเทพเจ้า
และภาพเงินกหาปณะ  ที่มีใช้เป็นเงินชนิดทำด้วยโลหะชนิดแรกที่มีใช้ในอินเดียโบราณ   








<   ภาพวัดเวฬุวัน   วัดแรกในพุทธศาสนาที่ตั้งแห่งแรกเป็นสวนไม้ไผ่

*****ดูภาพวัดเวฬุวัน  อินเดีย  >>>|  ที่นี่

<   ภาพเมืองมาร์แซย์   ที่มีข้อมูลบรรยายว่าเป็นที่ที่ชนชาวกรีกเริ่มก่อตั้งเป็นนิคมการค้าในสมัยโบราณที่เรียกว่าเมืองมัสสิเลีย  เมื่อประมาณ 2,600 ปีมาแล้ว   เมื่อเทียบกับสมัยพุทธกาลชนชาวยุโรปเริ่มมีการค้าขายระหว่างกันโดยทางเรือมานานแล้วโดยใช้เมืองท่าที่ติดกับทะเล 

****ดูภาพเกี่ยวกับเมืองมาร์แซย์  >>>|  ที่นี่

<   ภาพเหรียญทองสัมฤทธิ์ที่บรรยายว่าเป็นของในสมัยโรมันเมื่อกว่า 2,400 ปีมาแล้วและเมื่อเทียบกับเหรียญเงินของอินเดียโบราณของชาวยุโรปจะมีลักษณะที่บางกว่า

***ดูภาพการเปลี่ยนผ่านในยุคโรมัน >>>| ที่นี่  

****ดูภาพทางลากเกวียนในสมัยพุทธกาลที่คนโบราณเดินทางด้วยความยากลำบากซึ่งฤดูมรสุมของอินเดียอาจมีฝนตกที่ชุกมาก   >>>| ที่นี่