วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

ปริศนาคำถาม ?ทำไมมนุษย์จึงแตกต่างด้านสติปัญญา  ด้านความเป็นอยู่ ความสวยงาม ความสะดวกสะบาย  ใครเป็นผู้สร้างเรามนุษย์เริ่มจากการเกิดก็เกิดความต่างกัน  มีข้อมูลว่าสิ่งนั้นคืออำนาจจากพระเจ้า  ท่านเชื่อหรือไม่ ..........? 
เพิ่มคำอธิบายภาพ -ภาพเขียนการหมุนเวียนเกิดมนุษย์ในโลกวิญญาณ
<<  ภาพสุริยจักรวาลและดวงดาวที่นำมาเป็นชื่อของวันทั้ง 7 วัน ในปัจจุบัน
(***บทความนี้เป็นเพียงการสมมุติฐานจากการเกิดมนุษย์โลกที่เกิดจากกรรมที่แตกต่างกันจึงเกิดมีมนุษย์ที่ต่างกัน -แต่การเกิดมีมนุษย์ครั้งแรกเกิดพร้อมกัน -และอาจตรวจสอบจากอดีตชาติของแต่ละคนทางโหราศาสตร์)

อำนาจจากพระเจ้า กำลังสร้างมนุษย์***และอำนาจจากกรรมคือการกระทำของตนเองและสิ่งนั้นกำลังสร้างมนุษย์ที่แตกต่างกันในทุกขณะ   มีข้อมูลทางพุทธศาสนาว่าเดิมแท้แล้วมนุษย์เริ่มกำเนิดมาจากโลกสวรรค์ เป็นวิญญาณจากสวรรค์ที่มีความบริสุทธิ์เริ่มกินอาหารบนโลกและยังไม่มีเพศหญิงและเพศชายและหลังจากระยะหนึ่งจึงเกิดอีกครั้งแบบมีเพศเพราะเกิดจากกรรมของตน  เกิดเพศชายและหญิงหลังจากนั้นก็เริ่มกินดินและข้าวสาลีที่เกิดเองโดยอำนาจจากพระเจ้า    คาดว่าการเกิดมีมนุษย์ครั้งแรกมีจำนวนไม่มากประมาณราว 10,000  คนหรือมากกว่าเป็นอย่างมาก   หลังจากการเกิดอีกครั้งจึงเกิดเป็นเป็นเพศชายและหญิงและมีการผสมพันธุ์และเพิ่มจำนวนมากจนถึงยุคปัจจุบันที่มีมากราว  *7,529  ล้านคน

****ดูประชากรโลกปัจจุบัน >>> +text  ที่นี่

เมื่อมนุษย์เกิดในที่ต่างกันซึ่งมีภูมิอากาศที่
 แตกต่างกันจึงเกิดลักษณะที่ต่างกัน เช่น.- 1.ผิวขาวรูปร่างสูงผมสีทองเพราะอากาศหนาว (เกิดในยุโรป) 2.ผิวเหลืองรูปร่างสูงผมสีดำเพราะภูมิอากาศไม่ร้อนมาก (เกิดในเอเซียตะวันตก)  3.ผิวเหลืองลักษณะพอประมาณผมสีดำ (เกิดในเอเซียตะวันออก) 4.เกิดในทวีปแอฟริกาผิวดำและผมสีดำเพราะอากาศร้อนมาก  5.กลุ่มชนพื้นเมืองผิวเหลืองผมสีดำอาศัยอยู่กลางทวีป

<<   ลักษณะชาติพันธุ์มนุษย์ในยุคปัจจุบัน 
หลังจากมนุษย์มีการแพร่ขยายพันธุ์มากขึ้น ประชากรโลกจึงเพิ่มขึ้นมากจากยุคปิรามิดของอียิปต์ราว 5,000 ปีมาแล้ว   จนมาถึงยุคเกิดศาสนาและศาสดาราว 4,000 ปีที่ผ่านมา  มีผู้พยายามค้นหาถิ่นเดิมเริ่มแรกของมนุษย์คือสวรรค์นิพพานบ้านเดิมของมนุษย์ทุกคนโดยทำตนเองให้บริสุทธิ์ปราศจากมลทินและนั่นคือการเข้าถึงโลกสวรรค์
<< ภาพมนุษย์โลกปัจจุบันที่รู้จักแต่งกาย

ยุคปัจจุบันเมื่อประชากรเพิ่มมาก  ความขัดแย้งด้านความเชื่อในกลุ่มเล็กกำลังเกิดผลข้างเคียงของความเชื่อ   แต่คนส่วนใหญ่ยังเพิกเฉยและเพียงเฝ้าดู  มนุษย์กำลังถึงยุคของการค้าเกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งการเดินทาง
และการท่องเที่ยวที่กำลังทำให้มนุษย์มีการผสมข้ามพันธุ์กันมากขึ้นจากยุคก่อน  จึงยังมีเพียงจำนวนไม่มากที่เข้าถึงโลกสวรรค์และยังมีจำนวนอีกมากที่ยังต้องเกิดอีกในโลกเพราะยังไม่หมดจากกรรมของตนและสามารถเข้าถึงความบริสุทธิ์............?
<<  ภาพจากชาวแอฟริกาในทวีปแอฟริกา
******ดูภาพวิดีโอประกอบเรื่องวิญญาณดูชีวิตหลังความตาย - เสียงไทย  VDO + ที่นี่
******ดูข้อมูลเรื่องการเกิดมนุษย์ -ภาษาไทย  >>>  (กำลังค้นหา)
****ดูการเกิดพายุเฮอริเคน  ภัยโลกยุคใหม่ในปัจจุบันสาเหตุคาดว่าเพราะโลกร้อน (์News updated) >>> ที่นี่

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เปรียบเทียบสิ่งที่ชอบ-รัก กับการแบ่งปัน-ทาน ของโลกยุคใหม่กับการให้ทานในยุคโบราณและผลของบุญที่ได้รับ   อย่างใหนจะได้บุญมากกว่ากัน ? 
( บทความนี้เป็นการเปรียบในเชิงวิเคราะห์กับยุคปัจจุบัน อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด )


1.การชอบ หรือไลค์ (Like ) ความหมายเหมือนกับรัก องค์ประกอบในสิ่งนี้จะต้องเป็นสิ่งที่เป็บไปโดยถูกต้องตามความเป็นจริงเป็นการแสดงโดยความจริงใจโดยเปิดเผยต่อสาธารณะ  เป็นการแสดงออกผู้รับข่าวสารนี้ทางด้านจิตใจ 
 (คะแนน  = 10 -15 )

2.การแบ่งปัน (Share ) เปรียบเหมือนกับการให้ทานแต่เป็นการให้ทานในความนึกคิด  ทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมาเป็นการแบ่งปันและการให้ทานในความคิดเพราะไม่มีวัตถุที่จับต้องได้  จึงเป็นการแบ่งปันในโลกของข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในความรู้สึกนึกคิดแต่สามารถนำไปปฏิบัติได้
(คะแนน = 30- 60 )

*3.การให้ทานด้วยวัตถุสิ่งของที่จับต้องได้ในโลกของความเป็นจริง ( Donation )  เป็นการให้ทานด้วยวัตถุแห่งบุญทั้งผู้ให้และผู้รับ  ในโลกของอดีตหรือปัจจุบันมีการให้ทานกับสิ่งเหล่านี้ที่เป็นการเพิ่มประโยชน์ให้กับผู้ที่ได้รับและมีส่วนที่ทำให้เกิดบุญโดยการให้วัตถุสิ่งของ 
 (คะแนน  =   70 -100 )

****ดูภาพการให้ทานประกอบ  -เสียงไทย >>> ที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560


โลกร้อน-โลกแล้ง-โลกที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนประชากร  กำลังเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข  ทุกคนกำลังมีการจับตาดูอุณหภูมิโลกก่อนมนุษยชาติจะสูญพันธุ์
>>> ดูภาพการล่องไม้ในแม่นํ้า  ดูภาพที่ 1
.ความจริงอุณหภูมิโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นในยุคอุตสาหกรรมช่วง 60 ปี ที่ผ่านมาซึ่งเป็นยุคการค้าขายของมนุษย์ชาติ   แต่โลกร้อนเริ่มจากชาติตะวันตกนิยมชมชอบไม้สักในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังเป็นป่าดิบชื้นมีฝนตกมากในอดีตราว 100 ปีมาแล้ว  *ข้อมูลมีว่าไทยและพม่าส่งออกไม้สักจำหน่ายให้อังกฤษเพื่อใช้ทำการต่อเรือเพราะไม้สักมีคุณภาพพิเศษป้องกันเหล็กที่ตอกไม่ให้เกิดสนิมได้   ในปัจจุบันเราคงไม่ได้เห็นฝนตกแบบ 7 วัน 3 คืน อีกต่อไปเพราะการสูญสิ้นป่า
ในคำสอนของพุทธศาสนามีข้อมูลกล่าวถึงดวงอาทิตย์จะเพิ่มมากขึ้นถึง 7 ดวง เพื่อเผาทำลายล้างโลกเพราะโลกขาดศีลธรรมจะเห็นว่าในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมามีแต่สิ่งเลวร้ายเพิ่มมากขึ้นแค่อาทิตย์ดวงเดียวยังต้องมาประชุมกันเกือบทั้งโลกเพื่อสกัดโลกร้อน   การประชุมเมื่อเกิดในฝรั่งเศษมีประเทศร่วมประชุม 196 ประเทศ   มนุษย์ต้องมาหาข้อยุติร่วมกันหลังจากของยุคการค้าและการอุตสาหกรรมที่เป็นผลกรรมของมนุษย์เอง

ปัจจุบันมีการเผาทำลายป่ากันมากในโลกตะวันตกและโลกตะวันออกโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ  ซึ่งอาจเป็นการเผาทำลายเพื่อเปิดพื้นที่ใหม่เพื่อเพาะปลูกเพื่อการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตและจีดีพีที่เพิ่มมากชึ้น   ผู้คนและนักการค้าทั้งหลายอาจจะมีส่วนทำให้โลกร้อนมากขึ้น  วินาทีที่ผ่านไปภาพทุกคนกำลังเพิ่มความร้อน

****ดูการเกิดไฟป่าที่เกิดไม่นานมานี้  >>>   ที่นี่


. >>> อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นเพื่อปลอบใจว่าโลกยังไม่ร้อนเพียงแค่กดสวิทหรือกดรีโมทก็เย็นแล้วสะบายแล้วมีวางขายกันทั่วไปและนิยมกันอย่างแพร่หลายทั่วไปทั้งลด แลก แจก แถม สารพัดอย่าง  แต่ก็เย็นสะบายภายในห้องแคบแคบเมื่อเปิดประตูออกมาโลกก็ยังร้อนเหมือนเดิมแล้วสัตว์ป่าหรือสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์จะเป็นอย่างไร   ก็ต้องร้อนและร้อนแบบไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะทุกอย่างเป็นการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น  การก่อสร้างตึก อาคารสูง  ถนนหนทาง  แม้ในวัดบริเวณสถานที่ต่างๆยังนิยมลาดกันด้วยปูนซีเมนต์ >>>  ดูการจัดงานและการขาย

*****ดูการประชุมโลกร้อน ครั้งล่าสุด   >>> VDO +  ที่นี่
****เที่ยวแบบย่อในโมรอคโค  >>> VDO + ที่นี่



               

วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

<<< ถ้าบ้านเดิมของมนุษย์ทุกคนเป็นเพียงสวรรค์และอากาศธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์   อากาศธาตุที่ยังไม่มีวิญญาณเกิดขึ้นยังไม่มีร่างกายเป็นมนุษย์เช่นปัจจุบันและมนุษย์ได้เดินทางมายาวไกลมาจำนวน 60,000 ชาติ จากการเกิดแล้วเกิดอีกของมนุษย์  เราจะกลับบ้านเดิมของทุกคนหรือไม่ในโลกสวรรค์ที่ไม่มีร่างกายของมนุษย์และไม่ต้องมีการตายอีกเราจะทำอย่างไรที่จะมีชีวิตที่มีเพียงวิญญาณที่ว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยความสุขชั่วนิรันดร์  ไม่ต้องมีความหวาดกลัวเหมือนกับบนโลกมนุษย์  ที่แห่งนั้นจะไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่มีดวงจันทร์ จะมีเพียงแสงสว่างของความดี  มีแต่ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า............................................ ................................................


ศาสนาพุทธเกิดก่อนศาสนาคริสต์ 543 ปี แสดงว่าในดินแดนตอนเหนืออินเดียมีความสงบสุขมากกว่าแถบยุโรปที่เต็มไปด้วยการแย่งชิงอำนาจและความเป็นใหญ่   ทำไมชาวอารยันจึงเดินทางจากทางเหนือของประเทศอิหร่านเพื่อเดินทางมาถึงแถบเหนือของอินเดียเพื่อเริ่มต้นของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่นับถือพระเจ้าและความบริสุทธิ์และเป็นต้นกำเนิดของศาสนาพุทธที่มุ่งพัฒนาจิตวิญญาณในตนเองไม่ต้องพึ่งพระเจ้าอีกต่อไป

<<  กล้องวงจรเพื่อฉายภาพในโลกมนุษย์ที่กำลังนิยมมากในขณะนี้แต่กล้องนี้ใช้เพื่อจับโจรในยุคปัจจุบันที่มีมากมายแต่ข้อมูลว่าในโลกของพระเจ้าก็อาจกำลังเฝ้าดูทุกคนที่กำลังแสดงบทบาทของตนเองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกหรือไม่จากการบันทึกภาพในโลกวิญญาณ  เมื่อตายไปและเหลือเพียงวิญญาณมีข้อมูลว่าไม่มีใครที่จะปฎิเสธการกระทำของตนเองเมื่อแสดงอยู่บนโลกมนุษย์
<<<  ภาพวาดจากหนังสืออรหันต์จี้กงท่องเมืองนรกบรรยายภาพในโลกวิญญาณที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนจากกรรมทำให้มนุษย์มาเกิดขึ้นแล้วเกิดอีกนับ 60,000 ชาติ  ดังนั้นวิญญาณของชีวิตเราจึงเป็นพลังงานจากกรรมตามคำสอนที่มีในพุทธศาสนา    มนุษย์อาจเป็นวิญญาณธาตุที่แยกมาจากพระเจ้าตามคำสอนของศาสนาฮินดูโบราณ
ที่แถบยุโรปคาดว่าเมื่อกว่า 2,000 ปี   กำลังนับถือพระเจ้าที่อยู่ภายนอกกายตนและส่วนใหญ่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามเพื่อการชนะศึกที่มีการบูชาและให้การยกย่องระหว่างรัฐต่างๆว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  
ในปัจจุบันองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้ยกย่องให้วันเกิดของพระพุทธเจ้าของศาสนาพุทธเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกที่เรียกว่าวันวิสาขบูชา    มีข้อมูลว่าเมื่อครั้งพุทธกาลเมื่อ 2,560 ปีมาแล้ว พุทธเจ้าได้เปิดโลกมนุษย์-โลกสวรรค์-และโลกนรกเพื่อให้ชาว
<<< ภาพแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนา
คืออนุสรน์การแสดงฤทธิ์ของพุทธเจ้า  ซึ่งเชื่อว่าการแสดงฤทธิ์เป็นการเผยแพร่ศาสนาพุทธที่สำคัญซึ่งจะไม่มีในศาสนาอื่น
*****ดูยมกปาฏิหาริย์   >>> ที่นี่

อินเดียโบราณในยุคนั้นได้ชมทั่วหน้ากัน  ประชาชนจึงเกิดความเชื่อมั่นในพุทธศาสนาแต่การสอนคนให้รู้ในยุคนั้นกลับเต็มไปด้วยอุปสรรคจากการเดินทางที่ยาวไกลและต้องเดินด้วยเท้าและต้องกินนํ้าในลำธารแต่ศาสนาพุทธก็ได้เดินทางมากับกาลเวลามาถึงยุคปัจจุบันนี้   ที่กำลังเต็มไปด้วยความเสื่อมทางศีลธรรม เป็นยุคของการสะสมและความโลภ  มนุษย์ยุคปัจจุบันอาจมีความรู้เหมือนคนในยุคพุทธกาลที่เชื่อว่าการตายก็คือการสิ้นสุดทุกอย่าง  ไม่มีวิญญาณอีกต่อไปแต่ศาสนาพุทธกล่าวว่าจะมีวิญญาณจำนวนมากที่ต้องไปรับโทษในโลกของวิญญาณต้องไปรับรางวัลของความดีของตนและจะมีการหมุนเวียนวิญญาณต่อไปที่เรียกว่าสังสารวัฏ    กาลเวลาบนโลกของทุกคนอาจมีเพียง 100 ปี แต่ในโลกของพระเจ้ากาลเวลาช่างยาวนานนับเป็นกัปป์   >>> ดูกัปป์    *****ดูเรื่องวิญญาณที่มีคำสอนในพุทธศาสนา  >>> ที่นี่
ปัจจุบันกำลังมีการแปลพระไตรปิฎกคำสอนของศาสนาพุทธออกเผยแพร่ในหลายภาษาเพื่อให้ทราบเหตุการณ์ในอินเดียยุคโบราณเมื่อเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลเมื่อพุทธเจ้ายังมีชีวิต   และอาจหาอ่านได้ในห้องสมุดจากประเทศต่างๆ

******ข้อมูลมีว่าในโลกวิญญาณก็มีเสียงเพลง   แต่เราไม่สามารถดาวโหลดเพลงในโลกของพระเจ้ามาได้       ดังนั้น มาฟังเพลงที่เกี่ยวกับพระเจ้าถ้าเรากำลังจะเป็นผู้แปลกใหม่บนสรวงสวรรค์  >#>b>  ที่นี่
******องค์กรระดับโลกที่ยังนั่งลงพูดคุยกันได้ในเรื่องปัญหาต่างๆของมนุษย์ >>> ที่นี่

วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การกลับสู่โลกอนาคต กับ การย่างก้าวสู่อนาคต (Back to Future & Walking to Future <= |?| =>) มนุษย์กำลังย่างก้าวสู่อนาคตขณะที่โลกกำลังหมุนอยู่ต่อไป.................
เรากำลังเดินทางต่อไปพร้อมกับปัญหา ?

.ภาพยนตร์เ้รื่องการกลับคืนสู่อนาคต (ฺBack to the Future )  เคยนำมาฉายให้ดูในไทยเมื่อราวปี ค.ศ.1985 หรือเมื่อราว 32 ปีผ่านมาแล้ว  เป็นภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์กับการจินตนาการของการข้ามกาลเวลา   ประตูของโลกเวลามีจริงหรือไม่? วิทยาศาสตร์และโลกอันกว้างไกลของดวงดาวที่มีมากมายช่างเป็นสิ่งที่ดูลึกลับ  แต่ที่ค่อนข้างแน่นอนว่าดวงดาวกำลังจัดแบ่งมนุษย์ออกเป็น 12 จำพวก ตามข้อมูลทางโหราศาสตร์ของการทำนายที่มนุษย์คิดค้นขึ้นที่สามารถบอกได้ถึงนิสัย  คุณลักษณะของแต่ละบุคคลเอาไว้  จิตวิญญาณมนุษย์อาจกำลังถูกจัดแบ่งแยกจากพระเจ้าออกเป็นกลุ่มพวกเพื่อให้มาเกิดในลักษณะที่แตกต่างกันซึ่งจะเป็นศาสตร์แนวใหม่ที่กำลังเปิดเผยความลี้ลับของดวงดาวที่แวดล้อมเราอยู่ที่เราสามารถนำไปใช้ในการทำงานในอนาคตและค้นหาความลับในตัวบุคคล
         การกลับคืนสู่อดีตและการกลับคืนสู่โลกอนาคตตามภาพยนตร์ที่กล่าวมาดูจะไม่เป็นเรื่องจริงที่จะทำได้จริง   มนุษย์ไม่สามารถกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตได้เพราะอดีตถูกบันทึกไว้แล้วด้วยกรรมหรือการกระทำแต่มนุษย์สามารถแก้ไขเหตุการณ์ในปัจจุบันเวลาให้เป็นโลกของอนาคตได้ซึ่งดูจะเป็นเรื่องจริงและมีเหตุผลมากกว่า   ดังนั้น  การกระทำในทุกขณะของเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของตนเองและของโลกโดยรวมทั้งหมด   โลกหมุนทำให้ชีวิตหมุนไปต่อเนื่อง   โลกอนาคตกำลังรอทุกคนอยู่ในกาลเวลาข้างหน้าเราอาจต้องเกิดมาอีกครั้งและจะไม่มีใครที่จะสามารถจดจำอดีตกาลของทุกคนได้หมดที่เรียกว่าการลืมชาติตามคำสอนที่มีไว้ทางศาสนา   เราอาจต้องเกิดมาใหม่พร้อมกับชีวิตใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ ผู้คนแปลกใหม่  มนุษย์อาจเกิดมาบนความแตกต่างในทัศนคติ  แต่มนุษย์จะเห็นความสำคัญของธรรมชาติความสำคัญของสภาพแวดล้อมและการมีชีวิตที่ดีกว่าบนความรู้ทางสุขภาพรวมทั้งจริยรรมที่ดีงาม   ในโลกอนาคตทะเบียนประวัติมนุษย์ทุกคนจะถูกบันทึกไว้เป็นระบบสากลของโลกเพื่อการเดินทางและการได้รับสวัสดิการจากรัฐและการสมัครงานประวัติจะถูกบันทึกอย่างต่อเนื่องตราบจนสิ้นชีวิต    ปัจจุบันมนุษย์กำลังอยู่ในยุคการค้าที่กำลังปฏิบัติอยู่กันอย่างแพร่หลายในยุคนี้
         การค้ามีมาอยู่กับมนุษย์ยาวนานนับ 2,000 ปี มนุษย์อาจหลงไหลไปกับความมั่งคั่งแต่ก็ถูกจำกัดไว้ด้วยการรอคอยที่น่าเบื่อหน่ายบนท้องถนนพร้อมกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและการจากไปของชีวิต   เครื่องมือที่สำคัญในการดำรงอยู่ในอนาคตหมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และระมัดระวัง  และอุปกรณ์ที่ดีที่สุด   ชีวิตจึงจะเดินไปได้อย่างสะดวกปลอดภัย  ผู้คนกำลังทวีจำนวนมากยิ่งขึ้นในขณะที่ผู้จากไปก็มีมากขึ้นจนสามารถนับได้เป็นสถิติ   ในยุคต่อไปมนุษย์อาจต้องโหยหาธรรมชาติและจริยธรรมความถูกต้องมากกว่าศาสนา   ศาสนาอาจต้องกลายเป็นความล้าหลังทางพฤติกรรมที่ครั้งหนึ่งเคยมีความศักดิ์สิทธิ์และช่วยยกระดับจิตใจขึ้นมาได้แต่เมื่อโลกหมุนไปกลับมีมากไปด้วยพฤติกรรมที่แปลกใหม่จนดูเป็นเรื่องน่าขบขันไร้สาระซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ชื่นชอบของนักโฆษณาที่ชอบความไร้สาระจนลืมนึกถึงแก่นสารที่มีอยู่จริงของศาสนา    ปัญหาต่างๆของโลกอาจหมดไปได้เพียงแต่มนุษย์ทุกคนยกเอาศาสนาออกไว้นอกตัวเองและมองนึกถึงความเป็นมนุษย์ที่ต่างก็มีความเหมือนกันในเกือบทุกอย่างยกเว้นสีสันและชาติกำเนิดและฐานะความเป็นอยู่   มนุษย์และสัตว์ต่างก็มีจิตใจที่เกือบคล้ายกันรู้จักสุขรู้จักทุกข์   เมื่อโลกร้อนสัตว์ก็ต้องร้อนและทุกข์แต่มนุษย์มีความรู้และอุปกรณ์พร้อมที่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นมาได้   มนุษย์ยังแตกต่างกันในด้านความรู้ที่จะนำพาจิตไปสู่จุดหมายของชีวิต  เราอาจกำลังหลงทางอยู่กับโลก?
         ขณะปัจจุบันมนุษย์กำลังบ้าคลั่งอยู่เพียงการค้าและวัฒนธรรมการโฆษณาที่มีอยู่ในทุกลมหายใจและทุกเวลานาทีของชีวิตโดยก็ไม่ได้ตรวจวัดถึงความเป็นประโยชน์และการมีคุณค่าต่อสุขภาพที่สามารถรับประกันได้อย่างแน่นอน  คาดว่าสิ่งสำคัญของชาวโลกในวันข้างหน้าคือ  ความเป็นธรรมชาติ  สภาพแวดล้อมที่ดี  สุขภาพที่ยืนยาว  การแบ่งปันบริการจากรัฐที่ยุติธรรม  เหมือนจะ
เป็นรัฐสวัสดิการ   แต่รัฐสังคมนิยมที่แท้จริงอาจต้องรอคอยอีกนาน และอาจเกิดในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์หลังจากหมดยุคพุทธศาสนา  การเดินประท้วงบนท้องถนนอาจจะเกิดได้เมื่อมีเรื่องของเหตุการสำคัญเท่านั้น  มนุษย์ในยุคต่อไปอาจจะสามารถกุมชะตารัฐได้อย่างเด็ดขาดบนการเลือกตั้งของแต่ละคน
          ทุกคนกำลังเดินทางสู่อนาคตในทุกขณะ   อนาคตที่จะดีกว่าวันนี้  วันนี้ที่มีแต่ความเสื่อมโทรมและเสื่อมทราม  ที่มีแต่ความทุจริตฉ้อฉล   เบียดบัง   ซึ่งหมายถึงมนุษย์กำลังถอยห่างจากศาสนา  ศาสนาในยุคปัจจุบันก็เป็นเพียงสินค้าเพื่อการท่องเที่ยว   วันนี้ที่มีแต่ความไม่รู้ที่เป็นเพียงต้นทุนของชีวิต   วันนี้ที่เอาแต่ประโยชน์ไว้เป็นส่วนตน
*********ดูสถิติประชากรโลกปัจจุบัน  TEXT +>>>  ที่นี่
*****ดูสภาพรถติดบนถนนในไทย    VDO +>>> ที่นี่
*******ดูดวงของท่านวันนี้  TEXT +>>>  ที่นี่




วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

 การโอนเงิน (วัตถุ) กับ การโอนบุญ (จิต) บุญสามารถโอนและให้ได้ด้วยกันหรือไม่?   ข้อมูลมีว่า บุญ  หรือความดีทั้งหลายสามารถโอนให้กันได้ บุญเป็นพลังงานอย่างไร ?  บุญ เป็นเสบียงเพื่อเลี้ยงชีวิตวิญญาณในภพนี้และภพหน้า ( | v |...///...= = > )
.
.การโอนเงินทางอิเลคโทรนิคส์หรือด้วยระบบไฟฟ้าปัจจุบันสามารถทำได้อย่างทั่วถึงเมื่อมนุษย์สามารถประดิษฐ์ไฟฟ้ามาใช้   ไฟฟ้าเริ่มเกิดมาเพื่อร่วมชีวิตความสว่างไสวแก่ชาวโลกมาเมื่อประมาณ 194 ปีมาแล้วจากนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ (ค.ศ.1821 /พ.ศ.2364 )  การทำธุรกรรมทางการเงินและอื่นๆจึงเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันไปด้วยระบบไฟฟ้า    การโอนหรือการให้และการบริจาคจึงสามารถทำได้ด้วยโดยการส่งผ่านแบบอิเลคโทรนิคส์ ( Electronics )  การให้หรือการโอนเงินเพื่อการบริจาคเมื่อเทียบกับสมัยพุทธกาลแล้วกล่าวว่ามีหลักการที่คล้ายกันแต่แตกต่างในวิธีการเมื่อโลกเจริญขึ้นมากตามวิทยาการสมัยใหม่  การให้หรือการบริจาคทำให้
เกิดบุญคือคุณความดี  ความสงบสุข  การเสียสละ  ตามคำสอนทางศาสนาที่มีมาอย่างยาวนาน   เงินจึงเป็นวัตถุที่ทำให้เกิดบุญ    แล้วในเมื่อบุญที่เป็นเพียงนามธรรมยังสามารถโอนให้ด้วยกันได้ยังมีวิธีการอย่างอื่นมีอีกหรือไม่ ?  มีวิดิทัศน์ที่ให้คำตอบแล้วว่ามีคือการภาวนาจิตเพื่อให้จากบุญที่มีอยู่ในตัวของเรา  ถ้าเราไม่มีบุญก็คงให้ใครไม่ได้
คำตอบที่แปลกที่นักวิทยาศาสตร์อาจไม่เชื่อ  แต่ว่ามีอยู่จริงในโลกปัจจุบันที่เป็นเพียงการภาวนาจิต  คือการตั้งใจด้วยการให้ด้วยจิตแล้วส่งผ่านด้วยจิต   บุญที่ถูกส่งไปให้และสามารถทำได้ทำให้เกิดความสุขและหายจากเจ็บป่วยโดยไม่ใช้วิธีการอิเลคโทรนิคส์แต่อย่างใดเรียกว่าการส่งด้วยกระแสบุญ+จิต 
         ดังนั้น   บุญจึงมีส่วนสำคัญในชีวิตที่จะทำให้มนุษย์ก้าวขึ้นหรือก้าวลงจากสวรรค์  มนุษย์ปัจจุบันมีทุกข์เพราะไม่สนใจในบุญหรือกำลังอยู่ห่างไกลจากสวรรค์  สวรรค์คือความสุขเป็นสิ่งที่สูงส่ง   ปัจจุบันมีข้อมูลว่ามีหลายประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกเรียงลำดับแต่จะเกี่ยวข้องด้วยบุญหรือไม่ในขณะที่กระแสแห่งความทุกข์กลับกำลังก้าวเข้ามาอยู่ใกล้จนหวาดหวั่นและวิตก
          พลังงานแห่งบุญเกิดจากการสร้างบุญด้วยการกระทำ  ในศาสนาพุทธบรรยายถึงวิธี 10 อย่างที่ทำให้เกิดบุญ คือ  บุญกริยาวัตถุ 10  แล้วเรามีบุญมากเพียงพอแล้วหรือยังที่พร้อมจะโอนให้ผู้อื่นด้วยกระแสแห่ง "จิต"  บุญจึงเป็นพลังงานของความดีและสัมพันธ์กับจิตวิญญาณสัมพันธ์กับพระเจ้า   บุญสามารถสั่งสมมาจากอดีตชาติของเราได้ด้วยดูตัวอย่างเรื่องเวสสันดรชาดกในพุทธศาสนา

**********ดูวิดิทัศน์เสียงไทยว่าบุญส่งพลังงานได้  [วินาทีดูอำนาจของบุญแบบย่อเวลา 25:17- 27:00 ] >>>  ที่นี่   
*****ดูบุญญกริยาวัตถุ  >>>  ทีนี่
********ดูเตรียมเสบียง (บุญ ) ไว้เลี้ยงตัว เสียง -ภาษาไทย  >>>  ที่นี่
       "  มีข้อมูลว่าบางครั้งผู้ที่มีกรรมชั่วหนักมาก  ก็อาจจะไม่ได้รับส่วนบุญกุศลที่มีผู้ให้   ปัจจุบันมีการทำบุญกันมากแต่เราไม่มีผู้รู้แบบพระพุทธเจ้าที่จะมาให้คำอธิบายได้เหมือนในสมัยพุทธกาล   "

มีคำสอนที่เกี่ยวกับบุญมีไว้ดังนี้.-      บุญคือสิ่งที่โจรนำไปไม่ได้    การสั่งสมบุญนำสุขมาให้    บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า     บุญนำสุขมาให้ในเวลาสิ้นชีวิต   

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กับ วิญญาณ  ความเหมือนในความแตกต่างในสิ่งที่มองไม่เห็น ?
 [ = I = ] [+ ? -]

.คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า   คลื่นที่เราใช้กันในปัจจุบันเป็นคลื่นที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการติดต่อสื่อสารในอุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ใช้ตัวกลางในการเคลื่อนที่  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความเร็วเทียบเท่ากับความเร็วของแสงสามารถถ่ายเทพลังงานจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง  มีข้อมูลว่ารังสีหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเรียกว่าโฟตอนที่เป็นทั้งคลื่นและอนุภาคมีมวลนิ่งเป็นศูนย์ (0) แต่พลังงานไม่เป็นศูนย์   ประโยชน์ที่นำมาใช้ปัจจุบันคือ โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ วิทยุ อินฟราเรต ฯลฯ ความเร็วของคลื่นเดินทาง = 299,792,458 เมตร/วินาที เกือบเท่าความเร็วของแสง  แต่อย่างไรก็ตามมีข่าวว่าคลื่นนี้อาจกำลังเป็นปัญหากับอวัยวะสมองของมนุษย์ได้เมื่ออยู่ไกล้เป็นเวลานาน    คลื่นโทรศัพท์สามารถเหนี่ยวนำประจุไฟฟ้าจากฟ้าผ่าได้เมื่อต้องอยู่ในสถานที่โล่งกลางแจ้งเพราะมีอุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นมากมาย  ดังนั้น แม่เหล็กไฟฟ้าก็อาจใม่ให้ประโยชน์แต่เพียงอย่างเดียวแต่ต้องมีการเตือนภัยและต้องเฝ้าระวังอยู่ด้วย

.วิญญาณ  มีข้อมูลว่าวิญญาณเป็นพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ทั่วไปในสากลจักรวาล  ศักดิ์สิทธิ์ความหมายคือ อำนาจที่จะบันดาลให้เกิดความสำเร็จได้จึงเป็นเสมือนอำนาจของ พระเจ้า ที่ทุกคนเฝ้าตามหา  เชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์จะเกิดได้เพราะการทำความดีจนเข้าถึงความบริสุทธิ์
คาดว่าวิญญาณเดินทางได้เร็วกว่าพลังงานแสง  แต่วิญญาณไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์เพราะวิญญาณอาจเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มาจากพระเจ้า  มนุษย์ทุกคนอาจเป็นสิ่งประดิษฐ์จากพระเจ้าแต่ทุกคนอาจจะกำลังถอยห่างจากพระเจ้าจนลืมแหล่งที่มาของตนเองจนบางคนไม่เชื่อในพระเจ้าว่าไม่มีจริง
วิญญาณ  กล่าวว่ามีอยู่ในมนุษย์ทุกคนศาสนาพุทธมีคำบรรยายเกี่ยวกับวิญญาณคือการหมุนเวียนของชีวิตมนุษย์และสัตว์  และในหลายศาสนาเชื่อในเรื่องวิญญาณ  วิญญาณจะไม่เป็นโทษกับมนุษย์มากเมื่อเทียบกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากว่าวิญญาณจะถูกลงโทษด้วยการกระทำด้วยตัวของมันเอง ซึ่งน่าจะยุติธรรมที่่สุด   วิญญาณสามารถเดินทางได้ในอวกาศและในโลกวิญญาณในต่างมิติของเวลา*อ้างอิงตามที่มีข้อมูลเขียนไว้และขณะที่เราอ่านบทความนี้เชื่อว่า  ก็ยังมีวิญญาณมากมายอยู่บนพื้นโลกนี้เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถมองเห็นได้  มิติของวิญญาณจึงเป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้  เรารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เรากำลังรับรู้อยู่นี้เป็นเพียงอารมณ์ที่มีร่างกายเป็นส่วนประกอบ  หรือว่าอารมณ์ก็เปรียบเหมือนวิญญาณ

วิญญาณมีหลายระดับชั้นจากชั้นที่ตํ่าสุดคือชั่วที่สุดจนถึงดีมากที่สุดคือถึงจุดสูงสุดของวิญญาณหรืออาจหมายถึงวิญญาณที่เข้ามาไกล้ชิดกับพระเจ้าที่บางศาสนากล่าวว่าเป็นบุตรของพระเจ้า
         วิญญาณ กับ คลื่นที่มนุษย์สร้างขึ้นจึงแตกต่างในคุณสมบัติอย่างมากมายจากต้นกำเนิด  การให้คุณและการให้โทษ  และวิญญาณสามารถเข้าถึงในสิ่งที่สูงที่สุดได้แต่คลื่นไม่สามารถทำได้

*****ดูลักษณะต่างๆของวิญญาณ  เสียงไทย   >>>  ที่นี่
**********ดูเรื่องภัยอันตรายจากคลื่นโทรศัพท์ !!!!! มีข่าวว่าในต่างประเทศเกิดเนื้องอกในสมองเพราะคลื่นที่อยู่ใกล้  ชีวิตมนุษย์สำคัญกว่าอุปกรณ์  >>> ที่นี่

   



วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เลขอารบิคเลขมหัศจรรย์กำลังมีอิทธิพลกับคนทั้งโลก  เมื่อโลกเข้าสู่ยุคสากล (Universal)  เมื่อการคำณวนและการสื่อสารกำลังเชื่อมโยงมนุษย์เข้าด้วยกัน
เลขอารบิค   (1- 0 ) เลขที่สัมพันธ์กับดวงดาวบนท้องฟ้าตามการนับจำนวนและยังสัมพันธ์กับวันทั้ง 7 ของชาวโลก คือ.-1.=อาทิตย์ 2= จันทร์ 3 = อังคาร 4=พุธ 5 = พฤหัส 6 = ศุกร์ 7= เสาร์   อารบิคมีประวัติว่ามาจากนักปราชย์ชาวอาหรับ ชื่อ มุฮัมหมัด อิบน์ มูซา อัลคอวาริชมีย์ ( คศ.780-840) การนับจำนวนมีข้อมูลว่าเกิดในดินแดนตะวันออกกลางเพื่อนับจำนวนสัตว์เลี้ยงและเพื่อการค้าขายมาราว 10,000 ปีมาแล้ว
<< ภาพ มุฮัมหมัด อิบน์ มูซา อัลคอวาริชมี 
(เปอร์เซีย )
ถึงยุคปัจจุบันที่กล่าวว่าเป็นยุคของคลื่นที่มองไม่เห็นแต่กำลังมีอิทธิพลต่อชาวโลกอย่างมากเมื่อการติดต่อสื่อสารกำลังเดินทางไปกว้างไกล   ศาสตร์เกี่ยวกับตัวเลขยังเชื่อมโยงกับโหราศาสตร์-ดวงดาว -การเกิดของมนุษย์-พระเจ้า  หรือว่ามนุษย์กำลังเดินเข้ามาไกล้ในสิ่งที่ตนเองต้องการอยากทราบเกี่ยวกับตัวตน โลกและชีวิต  วิญญาณอาจเปรียบเหมือนเลข 0  หรือสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น โลกวิญญาณความเร้นลับแต่ศูนย์ก็มีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อรวมเข้ากับตัวเลขต่างๆและทวีจำนวนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
           ตัวเลขยังเกี่ยวกับวัน เดือน ปีเกิด ยังเกี่ยวกับโหราศาสตร์และการทำนายชีวิตมนุษย์ได้   มนุษย์ก็อาจเป็นเพียงลิขิตของตัวเลขและการบัญชาที่่มาจากพระเจ้า  อารบิคกำลังกลายเป็นสิ่งสากล   สากลคือการยอมรับของคนทั้งโลกว่า  ใช้ได้ง่าย เร็ว ถูกต้อง มีคุณค่า   เมื่อเข้าสู่ยุคของการสื่อสารสมัยใหม่แสดงว่าโลกไม่ได้กว้างใหญ่อย่างที่เราคิดไว้ในสมัยโบราณ   แต่โลกกำลังเล็กลงเพียงแค่เราคลิกไปบนตัวหนังสือและตัวเลขอารบิค    โลกมนุษย์อาจเดินทางมาถึงจุดเชื่อมโยงในยุคข่าวสารเป็นเรื่องสากล  มีเพียงแต่ว่าอาจเป็นเพียงผู้คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่มีความรู้และสามารถเข้าถึงได้  แต่อาจจะมีคนที่ยังไม่สนใจและเข้าไม่ถึงสิ่งที่เป็นสากลสิ่งนี้
         

****ดูความหมายเลขศาสตร์เสียงไทย >>> ที่นี่
*****วิญญาณไม่มีการสูญหายไปเพราะวิญญาณเป็น อมตะ  บทเพลงที่เกี่ยวข้อง  >>> ที่นี่




วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โหราศาสตร์กับการเกิดมนุษย์  หรือว่าระเจ้าส่งคนมาเกิด ? การทำนายดวงปัจจุบันจริงหรือมั่ว  แต่ทางพุทธเชื่อว่า กรรมหรือการกระทำ ที่จะส่งผลต่อบุคคล

โหราศาสตร์กับการทำนายและสถิติ    เมื่อโลกเจริญขึ้นแต่ความเชื่อทางโหราศาสตร์กลับได้รับการติดตามมากขึ้นจากบุคคลมากมาย   โหราศาสตร์เกี่ยวกับการเคลื่อนของโลกและดวงดาวบนท้องฟ้าและดวงอาทิตย์หรือสุริยเทพตามความเชื่อของคนโบราณ   ถ้าโหราศาสตร์มีส่วนเป็นความจริงก็อาจหมายถึงพระเจ้ากำลังสร้างมนุษย์ในทุกขณะ   มีเด็กเกิดในทุกวันวันละ 253,200 คน  และกำลังเพิ่มทวีจำนวนมากขึ้นนำมาหารด้วย 12 ราศี จะมีคนเกิดในราศีต่างๆมากถึงวันละ 21,100 คน ถ้ามีอัตราการเกิดอย่างสม่ำเสมอ   ใครส่งมนุษย์มาเกิดในโลก  พระเจ้า ดวงดาว หรือ มาจากต่างดาว หรือเพราะเหตุบังเอิญแต่ทางพุทธศาสนาอธิบายว่าได้มาจาก กรรม
หรือการกระทำของบุคคลส่งคนให้มาเกิดในที่แตกต่างกันตามฐานะยากดีมีจน  ซึ่งก็สมเหตุผล

          การทำนายตามราศีเชื่อว่ามีส่วนใกล้เคียงความจริงมากกว่า 50%  และถ้าเทียบเวลาในการเกิดจะยิ่งแม่นยำมากขึ้น  แต่เชื่อว่าเป็นการทำนายแบบเหมารวมเพราะคนจำนวนถึง 21,100 คนในแต่ละวันในแต่ละราศีจะมีโชคชะตาที่คล้ายกันหมดได้อย่างไร   พุทธศาสนาอธิบายได้ถึง กรรม หรือการกระทำของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป  เราอาจกำลังสร้างกรรมของเราขึ้นในทุกขณะของชีวิตถ้าเปรียบชีวิตคือการเดินทางอันยาวไกลผ่านวิญญาณของแต่ละคนเพราะเมื่อทุกคนสิ้นชีวิตแล้ววิญญาณยังอยู่แล้ววิญญาณไปที่ใหนก็ไปในอีก 3 ภพ ของแดนเกิดของมนุษย์ คือ.-โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ โลกนรก  หมุนเวียนต่อไปที่เรียกว่าสังสารวัฏของพุทธศาสนา   ทางพุทธเชื่อว่ากรรมของแต่ละบุคคลไม่สามารถลบล้างได้เหมือนคริสต์และฮินดู   แต่เมื่อถามจากผู้รู้กล่าวว่าบุญหรือความดีสามารถลบล้างบาปที่เคยทำมาแล้วได้  ดังนั้น  เราอาจมีเวลาไม่มากแล้วในการสร้างบุญ

การทำนายแบบเหมารวมตามจักรราศีจึงยังไม่สามารถนำมาเทียบได้กับผลของกรรมตามหลักพุทธศาสนาที่ยิ่งละเอียดมากยิ่งขึ้น  แล้วท่านจะเชื่อการทำนายตามราศีหรือผลของกรรมของแต่ละคน   นอกจากนี้เส้นลายมือบนฝ่ามือของบุคคลยังบอกถึงโชคชะตาที่อาจส่งผลมาตั้งแต่เกิดแล้วใครเป็นผู้ลิขิตชีวิตนี้  ชาวพุทธเชื่อว่าพระพรหมคือผู้ที่ลิขิตโชคชะตาและท่านเชื่อหรือไม่ ?

*****ดูดวงสำหรับชาวต่างประเทศ  0 >>> ที่นี่ *****ดูดวงกับโหราศาสตร์ไทย  0 >>>  ที่นี่
****เพลงต่างประเทศเกี่ยวกับโชคชะตา  + >>>  ที่นี่
****บทเพลงไทยเกี่ยวกับดวงดาว  + >>>  ที่นี่


วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โลกปัจจุบัน  นอกจากพลโลกเพิ่มขึ้นมาก  เทพต่างๆก็เพิ่มมากขึ้น  ในหลายสถานที่ต่างก็มีเทพของตนเอง  เรื่องของเทพบางครั้งทำให้มนุษย์ต้องเป็นศัตรูกัน  และในขณะเดียวกันสวรรค์กลับนิ่งเงียบ  ความเชื่อใหม่ของจีนไต้หวันคือ  พระแม่องค์ธรรม

พระแม่องค์ธรรม  หรือวิถีอนุตตรธรรม  ประวัติกล่าวว่าตั้งในจีนสมัยราชวงค์ชิง เมื่อ ปี ค.ศ. 1877 (พ.ศ. 2420 หรือราว 139 ปีมาแล้ว)  เมื่อจีนเปลี่ยนเป็นระบอบคอมมิวนิสต์จึงย้ายมาตั้งในประเทศไต้หวัน  ปัจจุบันมีข้อมูลว่าเป็นศาสนามีผู้นับถือเป็นอันดับที่ 3 ในไต้หวันรองลงมาจากศาสนาพุทธและศาสนาเต๋า  กล่าวว่ามีผู้นับถือลัทธิอนุตตรธรรม 10 ล้านคน ใน 86 ประเทศทั่วโลก  (จาก-วิกิพีเดีย)  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของความเชื่อนี้ คือ.-
1.หมิงหมิงซั่งตี้   หรือพระแม่องค์ธรรม เป็นผู้สร้างสิ่งทั้งปวงเหมือนพระพรหมของศาสนาฮินดูของอินเดีย
2.หมีเล่อกู่ฝอ   หมายถึง พระศรีอาริยเมตไตรย์ เป็นพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ได้รับโองการจากพระแม่องค์ธรรมให้ปกครองธรรมกาลยุคขาว คือยุคปัจจุบัน
3.หนันไห่กู่ฝอ  หมายถึง พระโพธิสัติว์กวนอิม   
4.ตี้จั้งกู่ฝอ  หมายถึง ผู้โปรดสัตว์ในนรกภูมิ
5.จี้กงหัวฝอ  หมายถึง พระอรหันต์จี้กง
6.เอวี้ยฮุ่ยผูซ่า  หมายถึง  พระจันทรปัญญาโพธิสัตว์
7.กวนเซิ่งตี้จวิน  หมายถึง  เทพเจ้ากวนอู
วิธีอนุตตรธรรมเชื่อว่าสืบสายมาจาก 3 ศาสนา คือ.-ศาสนาพุทธ ศาสนาขงจื๊อ  ศาสนาเต๋า  มีข้อมูลว่ามีพระธรรมาจารย์ของลัทธินี้มาแล้วถึง 64 รุ่น  และปัจจุบันมีการเผยแพร่ในไทยซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธมากถึง 95 %  มีวัดพุทธในไทยมากจำนวน 33,902 วัด

         โลกปัจจุบันยังคงมากมายด้วยความเชื่อหลังจากพุทธกาลลงมา  แต่ความเชื่อเรื่องการกินอาหารเจหรือมังสวิรัติจะมีในลัทธิอนุตตรธรรมซึ่งน่าเชื่อถือและมีการจำหน่ายอาหารเจและประกอบอาหารเจเพื่อแจกจ่ายให้ทุกคนในวันประกอบพิธีที่สำคัญ   เชื่อว่าการกินอาหารเจหมายถึงการเข้าถึงความบริสุทธิ์ซึ่งจะไม่ค่อยมีปรากฏในศาสนาพุทธนิกายเถรวาทของไทย  แต่จะมีปรากฏในพุทธนิกายมหายานของจีน  คำถามว่าคัมภีร์ลังกาวตารสูตรซึ่งกล่าวว่าคัมภีร์นี้พุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้เมื่อเดินทางไปเกาะลังกาในสมัยพุทธกาลแต่ทำไมไม่มีปรากฏในพุทธฝ่ายเถรวาท   การกินแบบมังสวิรัติมีปรากฏในศาสนาพุทธในอินเดียก่อนที่พุทธเจ้าจะปรินิพพาน   การกินแบบไม่มีการฆ่าสัตว์เชื่อว่าเป็นวิถีการเข้าถึงพรหมเมื่อครั้งพุทธเจ้าได้เข้าไปศึกษาในสำนักดาบสก่อนที่พุทธเจ้าจะได้ละทิ้งออกมาเพื่อไปปฏิบัติด้วยตนเองจนได้ตรัสรู้และเชื่อว่าพุทธเจ้าก็เป็นนักมังสวิรัติคือการไม่กินเนื้อสัตว์ใดเลย   มีข้อมูลว่าตระกูลศากยวงค์ของพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลจะไม่มีการกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร
พุทธเจ้าได้ลงมาเกิดในเมืองมนุษย์ในอินเดียตอนเหนือปัจจุบันคือประเทศเนปาลคือลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิตเป็นสวรรค์ชั้นที่ 4  ในสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นของทางพุทธ

เทพเจ้าเกิดขึ้นก่อนศาสดาในศาสนา  ดังมีปรากฏในประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณที่นับถือเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์  ชาวอินคาและอินเดียนแดงในอเมริกาก็เชื่อว่านับถือสุริยเทพที่มีการบูชายัญ   ขาวโรมันและกรีกก็เชื่อในเรื่องเทพซุสและเทพต่างๆ  ชาวจีนนับถือเทพต่างๆตามวงค์ของกษัตริย์และผู้ปฏิบัติดี   ลัทธิพราหมณ์ในอินเดียโบราณนับถือพระอินทร์และพระพรหมเป็นเทพเจ้าสูงสุด   ปัจจุบันประชากรโลกมีมากถึง 7,445 ล้านคน  ความเชื่อก็มีเพิ่มมากขึ้นโลกก็กำลังยุ่งยากเพราะความเชื่อที่แตกต่างและเริ่มมีการขัดแย้งกัน   ในขณะเดียวกันพระเจ้าบนสวรรค์กลับนิ่งเงียบไม่มีการออกความเห็นใดๆในขณะที่ได้รับยกย่องให้เป็นผู้สร้างโลก   หรือว่าความลับในโลกของสวรรค์ยังจะเป็นความลับที่ยาวนานอีกต่อไปโดยไม่ให้ประชาชนไม่ได้รับรู้อะไร   โลกกำลังทุกข์เพราะความเชื่อแล้วเทพเจ้าผู้สร้างโลกกลับนิ่งเฉย   มนุษย์อาจต้องแสวงหาคำตอบให้กับตนเองแบบเดินหลงทางในวังวนของความเชื่อกันอีกต่อไปอีกยาวนานเท่าไรจึงจะพบ  "ความจริงแท้ "  ที่ว่าเป็นหนทางสุดท้ายของทุกชีวิต  ศาสดาของแต่ละศาสนาอาจเป็นเพียงบันใดให้เราก้าวข้ามความเชื่อที่มีอยู่ให้สูงขึ้นไป    คำถามมีอยู่ว่าในยุคปัจจุบันนี้เราได้เดินมาถูกทางกันแล้วหรือยัง ?

****ดูเรื่องอนุตตรธรรม  เสียงไทย  >>>|  ที่นี่
****ดูสถิติข้อมูลโลกปัจจุบันที่เกิดขึ้นในเวบนี้   0 >>>  ที่นี่
******ดูเรื่องอรหันต์จี้กงเที่ยวเมืองนรก  >>>|  ที่นี่
***ฝากทำนองเพลงนี้ถึง "พระเจ้า " อาจหมายถึงว่าอย่าลืมพวกเราที่ยังเป็นเพียง"มนุษย์ " + >>> ที่นี่

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

( เรื่องเล่าที่มาช้าดีกว่าไม่มา )
สวรรค์ -โลกมนุษย์ -ยมโลก  ใน 3 โลกนี้ทางพุทธว่าคือการเดินทางของวิญญาณ  เรียกว่าสังสารวัฏคือการเปลี่ยนผ่านทางวิญญาณ  มนุษย์มีชีวิตบนโลก 100 ปี  แต่โลกวิญญาณมีเวลาที่ยาวนานนับเป็น กัป (Kap) 
(ภาพพระอรหันต์จี้กงกำลังท่องยมโลกผ่านวิญญาณและเขียนมาเป็นหนังสือจากประเทศไต้หวัน  >> )

จิตคือที่มาของมนุษย์   (อ้างอิงจากพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธและข้อมูลที่ว่าจิตเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง  จิตอาจเป็นเพียงอากาศธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นคือ.-พระเจ้า  ) แต่เมื่อจิตเริ่มมีร่างกายโดยการเริ่มกินอาหารเพื่อให้มีชีวิตเพื่ออยู่รอด  จิตจึงเกิดวิญญาณและเริ่มมีร่างกายเป็นมนุษย์ขึ้นและมีการรับรู้ทั้ง 5 อย่างของมนุษย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทำให้เกิดวิญญาณ  ทางพุทธเชื่อว่าเมื่อเริ่มแรกวิญญาณยังบริสุทธิ์  กินแต่พืชไม่รู้จักการกินเนื้อสัตว์ทางพุทธว่าการฆ่าทำให้มนุษย์เกิดบาปและอาจหมายถึงเกิดความไม่บริสุทธิ์ทางวิญญาณ    และเมื่อมนุษย์วิญญาณมีเพิ่มมากขึ้นการกระทำต่างกันทำให้คนเกิดในที่ต่างกันพร้อมด้วยบุญกุศลที่แตกต่างกัน   โลกปัจจุบันมีคนตายในทุกวันในขณะที่คนเกิดก็มีเกิดในทุกวันในปริมาณที่มากขึ้นเหมือนมาหมุนกงล้อของสังสารวัฏที่เปลี่ยนผ่านของทุกชีวิต   สัตว์ต่างๆบนโลกเมื่อถามผู้รู้กล่าวว่าเป็นมนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นสัตว์  (ข้อนี้ยังต้องสืบค้นต่อไปว่าเป็นสัตว์ทุกตัวหรือไม่ที่ถูกลงโทษจากเมืองนรก )


          วันสารทจีน   ของชาวจีนเชื่อว่ามีมานานมากเพื่อเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ   ในเดือนที่ 7 ของจีนประตูของยมโลกจะถูกเปิดเพื่อให้วิญญาณมารับส่วนบุญ ณ เมืองมนุษย์   ข้อมูลว่าบนสวรรค์มี บุญ และ กตัญญู ที่เทพเจ้าให้การยกย่องนับถือคือการทำความดีเช่นการให้ทาน  การช่วยเหลือผู้อื่น  การแบ่งปัน  การรู้คุณ  โลกปัจจุบันประชากรยิ่งมากแต่ไม่มีใครมาวัดกันว่าปริมาณการให้ทานได้มีเพียงพอต่อการยังชีพของมนุษย์หรือไม่   โลกปัจจุบันจึงมากด้วยปัญหาจากการแข่งขันสารพัด  แต่ปัญหาต่างๆกลับขายได้ให้เป็นข่าวทั้งทางทีวี  หนังสือพิมพ์  ทางโลกออนไลน์  พร้อมกับอุปกรณ์เข้าถึง
ข่าวที่มีบริการลด แลก แจก แถม สารพัด และปัจจุบันยังมี         
เกมส์ใหม่แบบเดินก้มหน้าเพิ่มเข้ามาอีก

ประเทศต่างๆอาจต้องร่างกฏหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของคนธรรมดาแบบเดินตัวตรงให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
( ภาพการเซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันสารทจีน  >> )
โลกปัจจุบันอาจจะไม่มีใครเดินตามหาวิญญาณ   เพราะวิญญาณเป็นสิ่งมองเห็นยาก   แต่ทางศาสนาว่าวิญญาณมีจริง   เหมือนคนจีนที่มีการนับถือวิญญาณบรรพบุรุษที่มีมาอย่างยาวนานเชื่อว่ายาวนานกว่า 2,000 ปี   โลกปัจจุบันอาจเป็นเพียงโลกของการวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิดถึงตอนเริ่มต้นชีวิตแรกเกิดของตนว่าเริ่มมาจากที่ใหน   นั่นหมายถึง สังสารวัฏ ที่มีมาอย่างยาวนานมากตามที่พระพุทธเจ้าได้ค้นพบโดยการทำความดีมาหลายภพหลายชาติจนได้มาเกิดเป็นศาสดา   การเกิดเป็นศาสดาเกิดเป็นได้ยากถ้าไม่มีความมุ่งมั่น   การเกิดเป็นมนุษย์มีข้อมูลว่าทุกคนถูกทำให้ลืมชาติก่อนของตนเพื่อให้มาเกิดใหม่อีกครั้งซึ่งทุกคนจะสามารถทราบได้จาก  ผู้ที่รู้ทางศาสตร์นี้โดยตรง  ว่าชาติที่แล้วเราได้เป็นอะไรและที่เรากำลังกระทำอยู่นี้ก็อาจจะส่งผลต่อไปอีกว่า.......................... " เรากำลังจะเป็นอะไรต่อไป ".....


*****ดูวิดิทัศน์วันสารทจีนในไทย  >>>|  ที่นี่
*****ดูพิธีการเลี้ยงผีเซ่นไหว้ในไทย   >>>|  ที่นี่
*********ดูเรื่องพระพรหม  ชาวไทยและอินเดียเชื่อว่าพระพรหมคือผู้สร้างโลกและมนุษย์   0 >>>  ที่นี่




วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หลังจากโลกเปลี่ยนผ่านมา 2,500 ปี  หนังสือสื่อธรรมและสื่อต่างๆได้ช่วยเผยแพร่คำสอนของพุทธเจ้าและศาสนาต่างๆแทนศาสดา   หนังสือยังช่วยให้มีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้นและป้องกันโรคทางสมอง

หนังสือกับความรู้และชีวิตที่ยืนยาวขึ้น   มีบันทึกกล่าวว่าหนังสือช่วยมนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นมีบันทึกแจ้งเรื่องการวิจัยว่าผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปและอ่านหนังสือเป็นประจำจะมีอายุยืนยาวขึ้นกว่าคนที่ไม่อ่านเลยและส่วนมากจะเป็นสตรีและกลุ่มที่มีรายได้สูง  แต่สำหรับคนที่อ่านหนังสือไม่มากก็ยังได้รับประโยชน์จากการอ่านหนังสือมากกว่าคนที่ไม่อ่าน  ผู้ที่อ่านมากยิ่งขึ้นอีกก็ได้รับประโยชน์จากการอ่านและจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ไม่อ่านหนังสือเลย    ข้อมูลยังบรรยายให้อ่านหนังสือให้มากเข้าไว้แม้จะเพียงวันละครึ่งชั่วโมงจะทำให้ตายได้ยากกว่าผู้ที่ไม่อ่านหนังสือเอาเสียเลย.

        ปัจจุบันกล่าวได้ว่าเป็นโลกของการอ่านหนังสือแม้ว่าหนังสือบางเล่มจะหาอ่านได้ในหนังสืออิเลคโทรนิคส์ทางอีบุคส์ทางหนังสือพิมพ์ประจำวันแต่หนังสือคือการช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง   ช่วยในการจินตนาการและระลึกความจำ    (แปลข้อความด้านขวามือจากภาพที่มีเด็กอ่านหนังสือ : น่าทึ่ง  เด็กญี่ปุ่นเมื่อรอขึ้นเครื่องบินทุกคนอ่านหนังสือ >> )                             ปัจจุบันโรคสมองเสื่อมที่ค้นพบโดยจิตแพทย์ชาวเยอรมัน  เมื่อปี พ.ศ.2449 (ค.ศ.1906) และแจ้งว่าการอ่านหนังสือจะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของการป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์นี้ได้    การอ่านทำให้เกิดความสงบเงียบได้ความรู้มากมายในหนังสือและในทางธรรมทั้งหลายที่ศาสดาของศาสนาได้เพียรปฏิบัติและบันทึกคำสอนไว้ในหนังสือเช่นในพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธและของศาสนาอื่นๆ     หนังสือคือการอยู่กับตนเองเป็นการหลีกหนีความวุ่นวายของโลกปัจจุบัน
ที่มีสิ่งต่างๆมากมายมากขึ้น    ความเงียบกับหนังสือก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ทำให้จิตได้โฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวและได้หยุดพักจิตเพราะโลกแห่งอดีตกาลเมื่อเริ่มต้นการเกิดขึ้นของศาสนาก็เป็นโลกแห่งความเงียบสงบเพื่อให้จิตได้หยุดพักเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปตราบใดเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่เพราะนั่นคือการเดินทางของชีวิตที่ยังไม่หมดสิ้น    ชีวิตที่มีวิญญาณอยู่ในร่างกายนี้เพื่อทำหน้าที่ของทุกคนที่ยังเหลืออยู่เพื่อให้ไปถึงสิ่งที่ตนเองมุ่งหวังไว้     ดังนั้น  คำสอนของศาสนาพุทธจึงอาจสรุปได้ว่าชีวิตมนุษย์ที่แท้จริงแล้วก็คือนักเดินทางท่องเที่ยวที่ยาวไกลไปใน 3 โลก   คือ.-  1.โลกสวรรค์ = w1 , 2.โลกมนุษย์ปัจจุบัน = w2  3.โลกของนรก = w3  
(  พระพุทธเจ้าของพุทธศาสนามีบันทึกว่าลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต (สวรรค์ชั้นที่ 4 ) เพื่อลงมาเป็นศาสดาในเมืองมนุษย์ขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (สวรรค์ชั้นที่ 2 ) เพื่อโปรดเยี่ยมมารดาที่ได้เป็นเทพบุตร   พระอรหันต์    จี้กงของจีนได้เคยท่องไปในยมโลกเพื่อตรวจเยี่ยมยมโลกและนำข้อมูลมาเขียนเป็นหนังสือ  )

******ดูงานหนังสือในไทย  >>>|  ที่นี่
******เยี่ยมร้านขายหนังสือ  0 >>>  ที่นี่
*******มองหาหนังสือธรรมเพื่อแจกจ่ายเป็นบุญกุศล  0 >>>  ที่นี่